รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในวันศุกร์ (28) ยืนยันจีนไม่ขอเลือกข้างตะวันตกหรือรัสเซียต่อวิกฤตยูเครน ก่อความผิดหวังแก่หลายฝ่ายที่คาดหวังว่าปักกิ่งจะช่วยเพิ่มน้ำหนักแรงกดดันของนานาชาติต่อมอสโก ตอบโต้กรณีผนวกไครเมีย
“จีนไม่มีผลประโชยน์ส่วนตัวใดๆ ในคำถามเกี่ยวกับยูเครน” สี แถลงข่าวร่วมกับนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ระหว่างเดินทางเยือนเบอร์ลิน “ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรใช้วิธีทางการเมืองและการทูตคลี่คลายความขัดแย้งนี้”
จีนใช้ท่าทีตอบสนองอย่างระมัดระวังต่อวิกฤตยูเครน เพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางกับชาติพันธมิตรกับรัสเซียหรือแสดงความคิดเห็นอย่างตรงๆ ต่อการลงประชามติ ซึ่งชาวไครเมียโหวตเลือกซบปีกรัสเซีย ด้วยเกรงว่ามันจะเป็นแบบอย่างของดินแดนที่ควบคุมยากทั้งหลายของพวกเขาอย่างเช่นทิเบต
อย่างไรก็ตาม ในการโหวตของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อช่วงต้นเดือน ต่อร่างมติประณามรัสเซีย ซึ่งให้การสนับสนุนการทำประชามติในไครเมีย จีนตัดสินใจงดออกเสียง ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่ามอสโกถูกโดดเดี่ยว “ถ้าฉันเป็นรัสเซีย ฉันคงไม่พอใจกับคะแนนโหวตที่สนับสนุนรัสเซียเป็นแน่” แมร์เคิลกล่าว ขณะที่ประเทศของเธอซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการค้าใกล้ชิดกับมอสโกและต้องพึ่งพาการส่งออกก๊าซของรัสเซียก็ยังสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ
แม้ จิน ส่งสัญญาณเข้าใจจุดยืนของรัสเซีย ด้วยบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือเหตุผลของประวัติศาสตร์ ขณะที่สื่อแห่งรัฐแดนมังกรก็แสดงความเสียใจถึงมอสโก อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่ง รัฐมนตรีต่างประเทศบอกเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า ปักกิ่งก็ต้องการพัฒนาความร่วมมือฉันมิตรกับยูเครนเช่นกัน และจีนจะเล่นบทบาทสำคัญต่อความช่วยเหลือทางการเงินที่นานาชาติมอบให้แก่ยูเครน แม้จะไม่ได้พูดอย่างชัดเจนว่าจะมีส่วนร่วมในรูปแบบใดก็ตาม
“เราสนับสนุนความพยายามเชิงสร้างสรรค์ของประชาคมนานาชาติที่พยายามบรรเทาสถานการณ์และเปิดใจยอมรับแนวคิดใดๆ ที่จะช่วยให้สถานการณ์สงบลง รวมถึงนำมาซึ่งการคลี่คลายปัญหาทางการเมือง” สี กล่าวที่เบอร์ลิน “จีนให้ความเคารพต่อหลักการความสัมพันธ์นานาชาติเสมอ และไม่แทรกแซงธุระภายในของประเทศอื่นๆ”
ผู้นำจีนรายนี้เดินทางเยือนเยอรมนีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว และเขาใช้โอกาสนี้ส่งสัญญาณถึงข้อตกลงทางธุรกิจมากมายที่จะช่วยส่งเสริมการค้าทวิภาคีซึ่งปีที่แล้วมีมูลค่าราวๆ 140,000 ล้านยูโร
