เอเอฟพี - กองเรือและฝูงบินของนานาชาติในวันศุกร์ (28) หันเหสู่โซนค้นหาใหม่ หลังพบข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่าเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส บินเร็วกว่าที่คิดไว้แต่แรก ก่อนที่มันจะดิ่งลงในพื้นที่ห่างไกลของมหาสมุทรอินเดีย ขณะเดียวกันเครื่องบินค้นหา 5 ลำก็พบเห็นวัตถุลอยน้ำในบริเวณดังกล่าวด้วย
เครื่องบิน 1 ลำจาก 6 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ เบี่ยงเป้าหมายไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของจุดเดิมที่ปฏิบัติการค้นหามานาน 1 สัปดาห์ ราว 1,100 กิโลเมตร และห่างจากเมืองเพิร์ธ ราว 1,850 กิโลเมตร ขณะที่ออสเตรเลีย ตัดสินใจเคลื่อนย้ายดาวเทียมเพื่อพุ่งเป้าไปยังจุดใหม่แล้ว
ในช่วงค่ำวันศุกร์ (28) สำนักความปลอดภัยทางทะเลของออสเตรเลีย (AMSA) ระบุว่าเครื่องบินค้นหา 5 ลำส่องพบวัตถุต้องสงสัยหลายชิ้นในพื้นที่ค้นหาใหม่ อย่างไรก็ตามกว่าที่ปฏิบัติการค้นหาทางเรือจะเริ่มต้นได้ คาดว่าน่าจะต้องรอจนถึงวันเสาร์ (29) โดยเวลานี้เรือจีน 5 ลำ และเรือกองทัพเรือออสเตรเลียอีกลำกำลังล่องไปยังพื้นที่ใหม่ หลังจากสภาพอากาศบรรเทาลงไป หลังจากต้องระงับปฏิบัติการค้นหาทางอากาศในวันพฤหัสบดี (27) เนื่องจากมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง
ด้าน นายฮิชามุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีคมนาคมของมาเลเซีย บอกว่าพื้นที่ค้นหาใหม่เป็นจุดที่เพ่งเล็งมากกว่าก่อนหน้านี้ และมีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามในขณะที่สภาพของปฏิบัติการค้นหาแม้ง่ายกว่าจุดเดิม แต่ก็ยังมีความท้าทายอยู่
สำนักความปลอดภัยทางทะเลของออสเตรเลีย บอกว่าขอบเขตการค้นหาใหม่นี้ซึ่งมีขนาดพอๆ กับประเทศนอร์เวย์ เกิดจากผลวิเคราะห์ข้อมูลเรดาร์ระหว่างทะเลจีนใต้ และช่องแคบมะละกา ก่อนที่เรดาร์จะขาดการตัดต่อกับเที่ยวบิน MH370 “มันบ่งชี้ว่าเครื่องบินเดินทางเร็วกว่าที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ ผลก็คือมันต้องใช้น้ำมันมากขึ้นและเป็นไปได้ที่ระยะทางที่เครื่องบินบินไปทางใต้สู่มหาสมุทรอินเดียอาจลดลง”
ด้วยพื้นที่ค้นหาใหม่ใกล้ผืนดินมากกว่าเดิม นั่นจึงหมายความว่าเครื่องบินค้นหาสามารถใช้เวลาสอดส่องตามน่านน้ำได้มากกว่าเก่าแล้วค่อยวกกลับมาเติมน้ำมัน และสามารถดำเนินการค้นหาได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มากกว่าจุดค้นหาเดิมในพื้นที่ห่างไกลทางใต้ ที่สภาพอากาศและท้องทะเลไม่เป็นใจแม้แต่น้อย
ดาวเทียมของหลายประเทศตรวจพบวัตถุต้องสงสัยหลายชิ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในบริเวณค้นหาเดิม เพิ่มความหวังว่าจะพบซากของเครื่องบินโบอิ้ง777 ที่สูญหายไปพร้อมกับลูกเรือและผู้โดยสาร 239 คน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม หลังจากเปลี่ยนเส้นทางการบินเป็นคนละฟาก จากเดิมที่กำลังเดินทางจากกรุงกัวลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สู่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน
มาเลเซียเชื่อว่าเครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางโดยเจตนาจากฝีมือใครบางคนบนเครื่องและมุ่งสู่ทางใต้หลายพันกิโลเมตร อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายคนบอกว่าพื้นที่ค้นหาใหม่ถูกระบุตามหลังการวิเคราะห์ข้อมูลเรดาร์จากผู้เชี่ยวชาญของโบอิ้ง ที่เข้าร่วมกับทีมสืบสวนนานาชาติในกัวลาลัมเปอร์