บีบีซี - ปฏิบัติการของนานาชาติในการค้นหาเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส บริเวณทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ในวันศุกร์ (21) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ลงเอยด้วยการยังไม่พบซากใดๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ละความพยายาม และจะเริ่มดำเนินการใหม่อีกครั้งในเช้าวันเสาร์ (22) โดยคราวนี้จะมีกำลังเสริมทางเรือเข้าร่วม
เครื่องบินตรวจการณ์ 5 ลำ ออกบินจากออสเตรเลียในวันศุกร์ (21) อีกครั้ง เพื่อค้นหาเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายไปพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน ในวันที่ 8 มีนาคม หลังจากสภาพอากาศเลวร้ายเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาเมื่อวันพฤหัสบดี (20)
การค้นหาครั้งนี้มีขึ้นหลังจากภาพถ่ายดาวเทียมตรวจพบวัตถุ 2 ชิ้นลอยอยู่ทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งทั้งออสเตรเลียและมาเลเซียระบุเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ จนเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นเศษซากของเที่ยวบิน MH370 ที่หายสาบสูญไปเมื่อ 12 วันก่อน โดยที่ชิ้นหนึ่งมีความยาวถึง 24 เมตร
อย่างไรก็ตามเหล่าผู้เชี่ยวชาญก็เตือนว่าด้วยสภาพท้องทะเลที่ไม่น่าไว้วางใจขั้นร้ายกาจ ดังนั้นปฏิบัติการกู้ภัยจึงอันตรายอย่างยิ่ง และทางสำนักงานความปลอดภัยทางทะเลออสเตรเลีย (เอเอ็มเอสเอ) ยืนยันว่าได้ระงับการค้นหาของวันศุกร์ (21) แล้ว หลังอาทิตย์อัสดง กระนั้นเรือของกองทัพเรือ HMAS Success กำลังมุ่งหน้าสู่พื้นที่ดังกล่าว และคาดจะไปถึงในวันเสาร์ (22) ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อปฏิบัติการค้นหาในวันต่อๆ ไป
ฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยว่านอกจากเรือรบลำดังกล่าวแล้ว ประเทศอื่นๆ ยังส่งทรัพยากรอื่นๆ เข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม ในนั้นรวมถึงจีน ญี่ปุ่น และสหราชณาจักร ขณะที่ทางฝรั่งเศสเสนอส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าช่วยเหลือ อันประกอบด้วยบุคลากรท่านหนึ่งที่เคยทำหน้าที่นำสืบสวนกรณีเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบิน 447 ประสบอุบัติเหตุมาแล้ว
ก่อนหน้านี้ โทนี แอบบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย บอกว่าการค้นหาคือธุระของคนหมู่มาก ไม่ใช่แค่บุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของพลเมืองเท่านั้น “ถ้ามีอะไรตกที่นั่น เราจะหามันพบ มันเป็นจุดที่เข้าไปได้ยากที่สุด คุณสามารถจินตนาการได้จากพื้นผิวโลก แต่ผมเชื่อว่า หากมีอะไรตกที่นั่น เราจะพบมัน” ผู้นำแดนจิงโจ้ที่อยู่ระหว่างเยือนปาปัวนิวกินีบอก อย่างไรก็ตามเขาเตือนว่าบางทีวัตถุที่ตรวจพบโดยดาวเทียมนั้นอาจไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินที่สูญหายก็เป็นได้
เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส บรรทุกผู้โดยสาร 227 คนและลูกเรือ 12 คน สูญหายไปในตอนเช้าของวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม หลังจากเปลี่ยนเส้นทางการบินเหนือทะเลจีนใต้อย่างกะทันหัน ขณะที่กำลังมุ่งสู่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยทีมสืบสวนเชื่อว่ามีการจงใจเบี่ยงเส้นทางการบิน แต่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครหรือว่าเครื่องบินลำนี้ไปสิ้นสุดที่ใด
ทั้งนี้มีหลักฐานบ่งชี้ว่ามีคนบนเครื่องปิดระบบสื่อสาร และระบบรับส่งสัญญาณเรดาร์ และบังคับให้เครื่องบินวกกลับมาทางมาเลเซีย และบินต่อไปอีกราว 6-7 ชั่งโมง ในเส้นทางเหนือหรือใต้จากช่องแคบมะละกา
