xs
xsm
sm
md
lg

“ศาลยูเครน” สั่งแบน “ ทีวีรัสเซีย” - อดีตนายกฯหญิงยูเครนอ้างเทปลับ “ใช้นุ๊กถล่มชาวรัสเซีย 8ล้านคนที่อยู่ในยูเครน” ถูกตัดต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - ในวันอังคาร(25)ที่ผ่านมา ศาลปกครองยูเครนสั่งห้ามการเผยแพร่สถานีโทรทัศน์จากรัสเซีย 4 ช่องหลักออกอากาศชั่วคราว เป็นผลทำให้บริษัทเคเบิลทีวียูเครนส่วนใหญ่ต่างหยุดออกอากาศ ด้านอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของยูเครน ยูเลีย ไทโมเชนโก ได้ยืนยันเสียงจากเทปลับที่เผยแพร่ผ่านสื่อทีวีรัสเซียเป็นเสียงเธอจริง แต่มีบางส่วนของคลิปเสียงถูกตัดต่อ

ผู้ให้บริการเคเบิลทีวีส่วนใหญ่ของยูเครนต่างระงับการแพร่ภาพของสถานีโทรทัศน์รัสเซีย 4 ช่องหลักหลังจากเมื่อวานนี้(25)ศาลปกครองในกรุงเคียฟได้มีคำสั่งให้หยุดออกอากาศชั่วคราวในระหว่างที่กำลังมีการสอบสวน ซึ่งคาดว่าจะมีการพิจารณาคดีในปลายสัปดาห์นี้

ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้กระทรวงต่างประเทศรัสเซียได้ประนามว่า เป็นการละเมิดความรับผิดชอบของยูเครนต่อประชาคมโลก และเป็นการโจมตีเสรีภาพของสื่อ

“นี่พิจารณาได้เพียงสถานเดียวถึงการคุกคามเสรีภาพทางประชาธิปไตย และการละเมิดถึงหน้าที่รับผิดชอบของยูเครนต่อนานาชาติ” คอนสแตนติน ดอลกอฟ อธิบดีด้านสิทธิมนุษยชนของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์สื่อรัสเซีย RIA Novosti

และดอลกอฟกล่าวต่อว่า “คำสั่งการห้ามออกอากาศสถานนีโทรทัศน์รัสเซียนั้นละเมิดสิทธิการชมโทรทัศน์และเข้าถึงสื่อรัสเซีย” และเขายังเสริมว่า “ถึงแม้ว่าผู้มีอำนาจในกรุงเคียฟจะได้อำนาจมาจากการยึดอำนาจ แต่ทว่าพวกเขาได้สัญญาที่จะปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ รวมไปถึงเสรีภาพ และหลักการประชาธิปไตย ซึ่งแน่นอนที่สุดคำสั่งของศาลยูเครนที่ออกมาครั้งนี้ได้ละเมิดคำประกาศที่รัฐบาลยูเครนรักษาการได้สัญญาก่อนหน้านี้” และยังตั้งคำถามว่าอำนาจใหม่ของเคียฟจะยังคงยึดมั่นในเสรีภาพ และสิทธิขั้นพื้นฐานด้านอื่นหรือไม่

ด้านองค์กรควบคุมสื่อยูเครนได้กล่าวโต้ว่า ข้อมูลผ่านสื่อรัสเซียนั้น “เป็นปฏิปักษ์ต่อความมั่นคงยูเครนและความเป็นรัฐของยูเครน รวมถึงขอบเขตของเส้นเขตแดน และนอกจากนี้ยังปลุกปั่นหวังให้เกิดสงคราม สนับสนุนความรุนแรง ความเกลียดชังด้านเชื้อชาติและศาสนา และละเมิดเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์ รวมถึงเสรีภาพ”

จากที่พบในขณะนี้ บริษัทผู้ให้บริการออกอากาศในยูเครนจำนวน 443 บริษัทจากทั้งหมด 703 แห่ง ที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานการควบคุมการออกอากาศโทรทัศน์และการกระจายเสียงของยูเครนได้ยอมทำตามคำแนะนำอย่างไม่เป็นทางการของหน่วยงานควบคุมสื่อนี้ โดยบริษัทเหล่านี้ได้หยุดแพร่กระจายสัญญาณของสถานีโทรทัศน์รัสเซียช่อง 1 ช่องNTV-World ช่อง RTR-Planeta และช่องรัสเซีย 24

และในขณะเดียวกัน สภาความมั่นคงแห่งชาติยูเครนได้สั่งให้อัยการและตำรวจยูเครน สอบสวนหาหลักฐานจากสื่อโทรทัศน์รัสเซียว่ามีเนื้อหาขัดกับกฏหมายของยูเครนหรือไม่ โดยการสอบสวนพุ่งเป้าไปที่ ความเกลียดชังด้านเชื้อชาติ การปลุกปั่นให้เกิดสงคราม และการแบ่งแยกดินแดน

นอกจากนี้ผู้อำนวยการรักษาการของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติยูเครนก็ได้ตกเป็นเป้าโจมตีด้วยเช่นกัน สมาชิกรัฐสภายูเครนที่เป็นสายชาตินิยมผู้หนึ่งที่เดินทางไปพร้อมกับกลุ่มผู้สนับสนุนได้ใช้กำลังบังคับบีบให้ผู้อำนวยการรักษาการเซ็นใบลาออก โดยอ้างเหตุผลว่าผู้อำนวยการคนนี้ไม่มีความเป็นชาตินิยมมากพอ


ด้านอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของยูเครน ยูเลีย ไทโมเชนโก ที่มีเทปลับเสียงการสนทนาหลุดออกมาเผยแพร่ผ่านสื่อโทรทัศน์รัสเซียช่วงเย็นวันจันทร์(24) ได้ออกมายืนยันว่า เสียงในเทปลับนั้นเป็นเสียงของเธอจริง แต่มีบางข้อความที่ถูกตัดต่อโดยเฉพาะข้อความใช้ระเบิดนิวเคลียร์กวาดล้างชาวรัสเซียจำนวน 8 ล้านคนในดินแดนของยูเครน

เสียงสนทนาในภาษารัสเซียทางโทรศัพท์ระหว่างไทโมเชนโกและเนสเตอร์ ชัฟริช (Nestor Shufrych ) อดีตผู้ช่วยเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติยูเรนเมื่อวันที่ 18 มีนาคมได้ถูกเปิดเผยออกมาผ่านยูทิว์บและสื่อรัสเซีย ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่ไทโมเชนโกได้กล่าวว่าชาวยูเครนต้องลุกขึ้นจับปืนและกวาดล้างพวกรัสเซียออกไปให้หมดรวมทั้งผู้นำของพวกเขาด้วย

และอีกช่วงหนึ่งที่ชัฟริชได้ถามไทโมเชนโกว่าจะทำอย่างไรกับชาวรัสเซียจำนวน 8 ล้านคนที่ยังอยู่ในยูเครน คนพวกนั้นเป็นพวกถูกทอดทิ้งอยู่แล้วในขณะนี้ ซึ่งไทโมเชนโกได้กล่าวตอบมาว่า “พวกนั้นต้องถูกสังหารด้วยระเบิดนิวเคลียร์”

ภายหลังไทโมเชนโกได้ทวีตข้อความอธิบายผ่านทวิตเตอร์ว่า “การสนทนานั้นเกิดขึ้นจริง แต่ข้อความ “ชาวรัสเซีย 8 ล้านคน” นั้นถูกตัดต่อ ความจริงแล้วดิฉันกล่าวว่า “ชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในยูเครนนั้นเป็นชาวยูเครน” สวัสดีหน่วยตำรวจลับรัสเซีย FSB :) ขอโทษด้วยสำหรับภาษาที่ไม่สุภาพ” โดยบีบีซีได้ให้ข้อมูลว่ามีประชาชนอาศัยอยู่ในคาบสมุทรไครเมียราว 2.3 ล้านคน ซึ่ง 80% ของพลเมืองในแถบนี้มีเชื้อชาติรัสเซียและพูดภาษารัสเซียเป็นหลัก

ทั้งนี้ไทโมเชนโกไม่ปฎิเสธในเนื้อหาสนทนาที่กล่าวถึงการจัดการวิกฤตไครเมียอย่างไรหากเธอมีอำนาจอยู่ในมือ และขออภัยต่อคำพูดที่ไม่สุภาพ และนอกจากนี้ ไทโมเชนโกยังเชื่อว่าหน่วยFSB นั้นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการดักฟังครั้งนี้ ซึ่งการสนทนานี้เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่รัสเซียได้ลงนามสนธิสัญญากับไครเมียเพื่อผนวกดินแดน โดยทางอาร์ที สื่อรัสเซียชี้ว่า ไทโมเชนโกนั้นโกรธจากผลการลงประชามติของไครเมีย ส่วนชัฟริชนั้นช็อกกับการลงนามรวมดินแดนของไครเมียและรัสเซีย ทั้งนี้ไทโมเชนโกได้ยืนยันว่าหากเธอยังอยู่ในอำนาจ รัสเซียจะไม่มีวันได้ไครเมียเด็ดขาด

อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงผู้นี้ที่เริ่มเข้าสู่อำนาจจากปฎิวัติสีส้มที่โด่งดัง และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียูเครนในช่วงปี 2007-2010 ไทโมเชนโกไม่เคยพูดภาษารัสเซียในที่สาธารณะมาก่อนถึงแม้ว่าเธอจะเติบโตมากับการพูดภาษารัสเซียก็ตาม
กำลังโหลดความคิดเห็น