xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อไวรัสมรณะ “อีโบลา” เพิ่มเป็นอย่างน้อย 62 ศพ รัฐบาลกินีสั่งห้ามปชช.กิน “ค้างคาว” หวั่นการระบาดลุกลาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - หลายประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก เร่งหาทางรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “อีโบลา” ที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 62 รายในประเทศกินี ท่ามกลางความหวั่นวิตกว่าเชื้อมรณะได้แพร่กระจายเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเซียร์รา ลีโอนและไลบีเรียแล้ว ขณะที่รัฐบาลกินีออกคำสั่งให้ประชาชนเลิกบริโภค “ค้างคาว” เป็นการชั่วคราว หวั่นเป็นต้นตอการระบาด

รัฐบาลกินีออกคำแถลงที่ระบุว่า กำลังหามาตรการที่เหมาะสมในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะอีโบลาที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 62 คน โดยขณะนี้มีการออกคำแนะนำให้กับประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ที่เป็นศูนย์กลางของการระบาด ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีผู้คนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เช่น ตลาด แม้มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาสินค้าขยับสูงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการขนส่งสินค้าไม่กล้าเดินทางเข้าไปส่งของในพื้นที่ที่พบการระบาด จนสินค้าหลายชนิดเริ่มขาดแคลน

ด้านกระทรวงสาธารณสุขกินีออกคำสั่งห้ามการจำหน่ายและการบริโภค “ค้างคาว” สายพันธุ์ต่างๆ เป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้ออีโบลาระบาดลุกลามหนักข้อขึ้น แม้อาหารที่ใช้เนื้อและชิ้นส่วนต่างๆ ของค้างคาวจะถือเป็น “เมนูยอดนิยม” ของชาวกินี โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ

มาตรการแบนการขายและการบริโภคค้างคาว ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามของรัฐบาลกินี ในการรับมือกับเชื้อมรณะอีโบลา ซึ่งคร่าชีวิตผู้ติดเชื้อในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 90 และยังไม่มีหนทางในการรักษา รวมถึงไม่มีวัคซีน ขณะที่ผู้ติดเชื้อมีโอกาสเสียชีวิตภายในเวลาเพียง 2-3 วันเท่านั้นนับจากที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย

ด้านรัฐบาลไลบีเรีย ยืนยันพบผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้ออีโบลาในประเทศของตนแล้วอย่างน้อย 8 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ 5 รายเสียชีวิตแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เพิ่งเดินทางข้ามพรมแดนมาจากกินี ประเทศที่เป็นต้นตอการระบาด

ส่วนรัฐบาลของเซียร์รา ลีโอนได้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อหาทางรับมือกับการระบาดของอีโบลา หลังจากเด็กชายวัย 14 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตกะทันหัน หลังเดินทางไปร่วมพิธีศพของผู้ที่ต้องสงสัยว่าเสียชีวิตเพราะติดเชื้ออีโบลารายหนึ่ง

ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า การระบาดของเชื้ออีโบลาที่มีศูนย์กลางอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของกินีในครั้งนี้ ถือเป็นการระบาดครั้งแรกที่เกิดขึ้นในภูมิภาค “แอฟริกาตะวันตก”

นอกจากนั้น คำแถลงขององค์การอนามัยโลกที่มีการเผยแพร่จากนครเจนีวา ในสวิตเซอร์แลนด์ในวันอังคาร (25) ยังระบุว่า ขณะนี้มีพลเมืองของแคนาดารายหนึ่งในแคว้น “ซัสแคตเชวัน” ล้มป่วยและต้องสงสัยว่าติดเชื้ออีโบลา หลังจากเพิ่งเดินทางไปท่องเที่ยวในแอฟริกาตะวันตก

ด้านรัฐบาลไอวอรีโคสต์ และมาลี ประกาศคุมเข้มการเดินทางข้ามชายแดนอย่างใกล้ชิด พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนงดเว้นการบริโภค “เนื้อสัตว์ป่า” และประกาศพร้อมให้ความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลา







กำลังโหลดความคิดเห็น