เอเจนซีส/รอยเตอร์ส – เมื่อวานนี้(22)กองกำลังรัสเซียพร้อมกับรถหุ้มเกราะ ปืนกลอัตโนมัติ และระเบิดแสงบุกเข้าไปยังฐานทัพอากาศยูเครนที่ตั้งอยู่ในเบลเบ็ก บนคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสองฐานทัพยูเครนสุดท้ายในไครเมียที่ยังอยู่ในความควบคุมของกองทัพยูเครน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ยูลิ แมมเชอร์ (Yuli Mamchur ) ผู้บัญชาการฐานถูกพาไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อเจรจาและยังไม่ปรากฏตัวอีกเลย ในขณะที่รอยเตอร์สเปิดเผยว่า ในวันเดียวกัน(22) อาร์เซน อวาคอฟ รัฐมนตรีมหาดไทยรักษาการยูเครน ยืนยันว่าตำรวจยูเครนได้พบทองคำหนัก 42 กก. และเงินสดจำนวนมากซ่อนอยู่ภายในอพาทเมนต์ของ เอดูอาร์ด สตาวิตสกี (Eduard Stavytsky) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานยูเครนในรัฐบาลของวิกเตอร์ ยานูโควิช
ซึ่งกองกำลังรัสเซีย ที่มีหน่วยรบพิเศษสเปซนาสรวมอยู่ด้วย ได้บุกเข้าไปยังฐานทัพอากาศยูเครน “พอร์กริชคิน” ที่ตั้งอยู่ในเบลเบ็ก บนคาบสมุทรไครเมียเป็นผลให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ซึ่งถือเป็นการปะทะครั้งแรกระหว่างรัสเซียและยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียได้ส่งกองกำลังเข้ามาบุกยึดไครเมียเมื่อ4 สัปดาห์ก่อนหน้านี้
เอียน เบอร์เรลล์ นักข่าวสื่ออังกฤษที่อยู่ในเหตุการณ์จากข้างในฐานทัพได้เป็นพยานในการเข้าบุกยึดครั้งนี้ได้รายงานว่า เห็นขบวนรถหุ้มเกราะพังกำแพงฐานทัพอากาศเข้าไป และตามด้วยทหารรัสเซียที่ตามมาและมีหน่วยรบพิเศษสเปซนาสถือปืนไรเฟิลตามมาด้วย นอกจากนี้พบว่า ระเบิดแสงได้ถูกโยนไปยังทหารยูเครนที่มีทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุน และเหล่านักบินรบที่ยังรักษาการอยู่ที่ประจำฐานทัพแห่งนี้จำนวนหลายร้อยคน ซึ่งพวกเขาต่างมีอาวุธป้องตัวเพียงแค่ปืนไรเฟิล AK-47 ปืนพก และไม้ที่ทำจากกิ่งไม้
มีทหารยูเครนนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกเตะ และกระทืบโดยทหารรัสเซีย 2 นายที่สวมเกราะสีดำ และมีจำนวนทหารรัสเซียหลั่งไหลเข้ามายังฐานทัพอากาศแห่งนี้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้เบอร์เรลล์ยังรายงานว่ามีทหารยูเครนคนหนึ่งได้ล้มลงข้างเขาเนื่องมาจากระเบิดแสงที่ทหารรัสเซียขว้างใส่ และวิ่งไปสมทบกับเพื่อนนายทหารของเขา นายทหารระดับสูงของยูเครนได้เปรยออกมาว่า “ดูซิว่าใครเป็นนาซีที่แท้จริง”
หลังจากนั้นกองกำลังรัสเซียได้ตระโกนสั่งให้ทหารยูเครนที่ประจำอยู่ในฐานทัพอากาศพอร์กริชคินยอมแพ้ พร้อมทั้งยิงปืนขู่ไปรอบๆบริเวณ การสู้รบดำเนินไปราว 35 นาทีถึงแม้ว่าทหารยูเครนจะได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา “ไม่ให้ลั่นกระสุนใส่กองกำลังผู้บุกรุก” เพื่อเลี่ยงจากการสูญเสียกำลังพล ซึ่งเหล่าทหารยูเครนที่เหลืออยู่นี้ดูไม่มีอาการหวาดหวั่น มีเพียงความโกรธจากการบุกรุกจากกองกำลังฝ่ายตรงข้ามผสมกับมุขตลกที่พวกเขาพยายามหามาปลอบใจในสถานการณ์คับขัน
นอกจากนี้มีรถหุ้มเกราะที่ขนทหารรัสเซียจำนวนหนึ่งขับไปประชิดตึกกองบัญชาการของฐานทัพอากาศยูเครน ซึ่งปืนกลของกองกำลังรัสเซียที่สวมหน้ากากจ่อไปที่ทหารยูเครน โดยมีทหารยูเครนได้กล่าวว่า “เราจะอยู่จนถึงที่สุด เราจะไม่ยอมแพ้”
นาวาอากาศเอก ยูลิ แมมเชอร์ ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้กับนักข่าวอัลญะซีเราะห์ว่า นอกจากที่มีทหารยูเครนใต้บังคับบัญชาของเขาได้รับบาดเจ็บแล้ว เขากำลังจะถูกพาตัวไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ได้รับการเปิดเผยเพื่อการเจรจา โดยตั้งแต่ไครเมียเริ่มถูกกองทัพรัเซียเข้ายึด ทั้งเครื่องบินรบยูเครนที่จอดอยู่ภายในฐานทัพได้ถูกยึดไว้ และลานบินถูกกองกำลังรัสเซียได้ปิดกั้นไว้ไม่ให้สามารถใช้ให้เครื่องบินขึ้นหรือลงได้ โดยหลังจากที่ทหารรัสเซียได้บุกเข้ามาแล้ว แมมเชอร์ได้กล่าวกับลูกน้องของเขาที่เหลืออยู่ในฐานทัพว่า แมมเชอร์จะรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงว่า จะไม่ถอยและได้รับเสียงตบมือจากบรรดานายทหารยูเครน พร้อมกับเสียงตระโกนปลุกใจว่า “ยูเครนจงเจริญ”
ซึ่งบีบีซีได้รายงานว่า ก่อนหน้าที่ฐานทัพอากาศแห่งนี้จะโดนบุก แมมเชอร์ได้ติดต่อไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกรุงเคียฟเพื่อขอคำแนะนำว่าจะต้องทำอย่างไรหากถูกรัสเซียบุก แต่ยังไม่มีคำตอบออกมาโดยบีบีซีชี้ว่า ทหารยูเครนที่ยังหลงเหลืออยู่ในไครเมียต่างรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง แต่ผู้บัญชาระดับสูงในกรุงเคียฟได้แย้งกับบีบีซีว่า ไม่เป็นความจริงเพราะฐานทัพแต่ละที่ในไครเมียต่างได้รับคำแนะนำอย่างชัดเจนว่าควรปฎิบัติอย่างไรหากถูกเข้ายึดจากกองกำลังรัสเซีย
และหลังจากที่แมมเชอร์ถูกจับกุมตัวไปแล้ว เหล่าทหารรัสเซียออกคำสั่งให้ทหารยูเครนกลับเข้าไปอยู่แต่ภายในห้องของตนเอง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ยูเครนหลายรายกังวลถึงครอบครัว ที่มีผู้หญิงและเด็กที่ยังอาศัยอยู่ภายในฐานทัพแห่งนี้ และนอกจากนี้ยังไม่มีรายงานพบว่าได้เห็นแมเชอร์อีกหลังจากที่เขาถูกจับตัวไปแล้ว
อนึ่ง ก่อนหน้าที่ฐานทัพอากาศพอร์กริชคินจะถูกบุกไม่กี่ชั่วโมง เบอร์เรลล์ได้รายงานว่า แมมเชอร์ได้เป็นประธานจัดงานแต่งงานให้กับลูกน้องของเขา
นอกจากนี้ ยังมีรายงานถึงการบุกเข้ายึดฐานทัพยูเครนอีกแห่งซึ่งเป็นแห่งสุดท้ายในไครเมีน โดยพบว่าฐานทัพเรือยูเครนในโนโวเฟโดริฟกา ผู้บุกรุกฝ่ายนิยมรัสเซียที่ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังรัสเซียได้โยนระเบิดควันเข้าไปข้างในฐานทัพ “ควันเต็มไปหมด เหล่าทหารยูเครนต้องถอยกลับเข้าไปยังตึกอำนวยการใหญ่” โฆษกกระทรวงกลาโหมยูเครน วลาดิสลาฟ เซเลซนอย์ฟ (Vladyslav Seleznyov.) กล่าว และเปิดเผยต่อว่า หลังจากนั้นกองกำลังยุเครนได้เดินทางออกจากฐานทัพหลังจากร้องเพลงชาติยูเครนเสร็จสิ้นแล้ว
และในขณะเดียวกันอีกด้านที่กรุงเคียฟในวันเสาร์(22) อาร์เซน อวาคอฟ รัฐมนตรีมหาดไทยรักษาการยูเครน ยืนยันว่าตำรวจยูเครนได้พบทองคำหนัก 42 กก. และเงินสดอีก 4.8ล้านดอลลาร์ซ่อนอยู่ภายในอพาทเมนต์ของ เอดูอาร์ด สตาวิตสกี (Eduard Stavytsky) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานยูเครนในรัฐบาลของวิกเตอร์ ยานูโควิช
ซึ่งอวาคอฟเปิดเผยว่า การค้นที่พักของสตาวิตสกีครั้งนี้มาจากการทำคดีคอรัปชันทางด้านอุตสาหกรรมพลังงาน โดยพบว่า สตาวิตสกีมีความก้าวหน้าในด้านการงานภายใต้การบริหารงานของยานูโควิชที่แต่งตั้งเขาเป็นรัฐมนตรีการพลังงานในเดือนธันวาคม 2012
และสื่อยูเครนต่างเรียกสตาวิตสกีว่าเป็น “คนวงในของยานูโควิช” และรอยเตอร์สไม่สามารถติดต่อสตาวิตสกีเพื่อขอความเห็นได้