เอเอฟพี - อินเดียออกมาปฏิเสธในวันนี้ (17 มี.ค.) ถึงทฤษฎีที่มีผู้เสนอว่า แดนภารตะอาจเป็นเป้าหมายของการโจมตีในสไตล์เหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 โดยที่คนร้ายจะใช้เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 ของมาเลเซียแอร์ไลน์สซึ่งสูญหายไป เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติการ
ขณะที่นายกรัฐมนตรี มานโมหัน ซิงห์ ได้ประกาศให้คำมั่นสัญญาว่าจะร่วมมือช่วยเหลือด้วยอย่างเต็มที่ สำหรับการติดตามไล่ล่าของนานาชาติเพื่อค้นหาเครื่องบินในเที่ยวบิน MH370 ลำนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศ ซัลมาน คูร์ชิด ของอินเดีย ก็กล่าวสำทับว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องคลี่คลายปริศนาเกี่ยวกับชะตากรรมของเครื่องบินลำนี้ให้เป็นที่กระจ่าง
ครั้นเมื่อถูกเครือข่ายโทรทัศน์ ซีเอ็นเอ็น-ไอบีเอ็น จี้ถามเกี่ยวกับทฤษฎีที่เสนอกันว่า เครื่องบินลำนี้ถูกคนร้ายจี้ ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะให้ขับพุ่งชนเข้าไปในเมืองใหญ่ของอินเดียเมืองหนึ่ง คูร์ชิดก็ตอบว่า “ผมไม่คิดว่าเราควรต้องคิดไปไกลถึงขนาดนั้น”
กระแสข่าวลือเกี่ยวกับทฤษฎีนี้แพร่สะพัดออกไปมาก เนื่องจาก สโตรบ ทัลบอตต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ทวีตว่า “ทิศทาง, น้ำมันเชื้อเพลิงที่บรรทุกอยู่ และพิสัยทำการบิน เวลานี้ทำให้บางคนสงสัยว่าพวกจี้เครื่องบินวางแผนโจมตีในแบบ 9/11 ต่อเมืองใหญ่ในอินเดีย”
ความเห็นของสโตรบ ถูกสื่อมวลชนอินเดียหยิบยกมาเสนอและวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และคูร์ชิดบอกว่า จำเป็นที่จะต้องให้คำตอบแก่ประชาชนเพื่อบรรเทาความหวาดกลัวของพวกเขา
“เราหวังว่าจะสามารถมีข้อสรุปบางประการซึ่งทั้งน่าเชื่อถือและทั้งสร้างความมั่นอกมั่นใจ” เขากล่าว
ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์ไทมส์ออฟอินเดีย รายงานว่าพวกแหล่งข่าวความมั่นคงของแดนภารตะต่างระบุว่า แนวความคดนี้ “ไร้สาระ” เนื่องจากคิดเห็นไปว่าเครื่องบินลำนี้สามารถบินเข้าไปใกล้ๆ ย่านศูนย์กลางของเมืองใหญ่ในอินเดียได้ ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่เช่นนั้นเลย เพราะเครื่องบินจะต้องถูกตรวจพบจากฐานทัพนาวีซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่เกาะอันดามัน ห่างจากแผ่นดินใหญ่อินเดียกว่า 1,000 กิโลเมตร
“ไม่มีทางเลยที่เรดาร์ทางทหารของเราจะพลาด ไม่สามารถตรวจพบเครื่องบินโดยสารที่กำลังบินอยู่เหนือทะเลอันดามัน สืบเนื่องจากมีการสัญจรกันมากในช่วงเวลาดังกล่าว” แหล่งข่าวกรองทางทหารรายหนึ่งบอกกับไทมส์ออฟอินเดีย
ไม่เพียงแดนภารตะเท่านั้น ที่ไม่คิดว่าจะมีผู้ก่อเหตุแบบ 9/11 ต่อเมืองใหญ่ๆ ของตน ทางด้านกองทหารขององค์การนาโต้ที่นำโดยสหรัฐฯซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในอัฟกานิสถาน ก็แถลงว่าไม่ได้กำลังออกตามหาเครื่องบินโดยสารที่หายไปนี้ในเขตรับผิดชอบของตนแต่อย่างใด ขณะที่สำนักงานการบินพลเรือนของปากีสถานบอกว่า เครื่องบินลำนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นบนจอเรดาร์ของปากีสถาน
อินเดียนั้นได้ส่งเรือและเครื่องบินออกไปค้นหาบริเวณท้องทะเลนอกชายฝั่งหมู่เกาะอันดามันอันยาวเหยียดของตนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทว่าได้ระงับการปฏิบัติการเอาไว้ชั่วคราวเมื่อวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) โดยบอกว่าต้องรอฟังคำแนะนำใหม่ๆ จากทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของมาเลเซีย
“การปฏิบัติการต่างๆ ถูกระงับเอาไว้ก่อนในตอนนื้ ทุกๆ อย่างหยุดหมด” ดี.เค.ชาร์มา โฆษกกองทัพเรืออินเดีย บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีในวันจันทร์ (17)
“เจ้าหน้าที่รับผิดชอบของมาเลเซียในตอนนี้จะเป็นผู้ตัดสินใจและแจ้งให้เราทราบว่าควรจะไปค้นหาตรงไหน สำหรับตอนนี้พวกเขาขอให้เราหยุดรอและเตรียมพร้อมไว้ เราจึงกำลังรอคำแนะนำเพิ่มเติม ทันทีที่ได้รับ เราก็จะลงมือ”
ก่อนหน้านี้ สำนักงานของนายกรัฐมนตรี ซิงห์ ได้ออกคำแถลงระบุว่า นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก ของมาเลเซีย ได้โทรศัพท์มาพูดคุยเมื่อวันอาทิตย์ (16) โดยร้องขอ “ความช่วยเหลือทางเทคนิคจากทางการผู้รับผิดชอบของอินเดีย เพื่อการร่วมมือประสานงานในเรื่องเส้นทางที่เครื่องบินโดยสารของมาเลเซียที่หายไปลำนี้อาจเลือกใช้”
คำแถลงบอกว่า นายกฯซิงห์ “ให้ความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของอินเดียผู้เกี่ยวข้อง จะให้ความช่วยเหลือทุกอย่างที่เป็นไปได้”