เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - น้ำมันทรงตัว ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งลงวานนี้ (13) ท่ามกลางข้อมูลที่สวนทางกันของเศรษฐกิจสหรัฐฯและจีน ขณะที่ตัวเลขการผลิตอันน่าวิตกของปักกิง ก็ผลักให้นักลงทุนหันไปถือครองทองคำ จนปิดบวกเล็กน้อย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ ปิดที่ 98.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 63 เซนต์ ปิดที่ 107.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักวิเคราะห์มองว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของจีน ฉุดรั้งตลาดน้ำมันเล็กน้อยและกลบแรงหนุนเกี่ยวกับความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน
โดยในวันพฤหัสบดี (13) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลผลิตมูลค่าเพิ่มในภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 8.6 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบรายปี ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2014 ถือเป็นอัตราต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2009 ขณะที่เมื่อเทียบรายเดือน ผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ.ขยับขึ้นเล็กน้อยแค่ 0.6 เปอร์เซ็นต์ จากเดือนก่อนหน้านี้ ส่วนยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 11.8 เปอร์เซ็นต์ แย่ที่สุดในรอบหลายเดือน
ทั้งนี้ จีนใช้ผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรม เป็นมาตรวัดกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีผลประกอบการรายปีอย่างน้อย 20 ล้านหยวน (3.26 ล้านดอลลาร์)
ปัจจัยข้างต้นประกอบกับความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นในยูเครน ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (13) ดิ่งลงหนัก แม้ได้ข้อมูลบวกเกี่ยวกับยอดค้าปลีกและข้อมูลภาคแรงงานอเมริกาช่วยพยุงไว้ก็ตาม
ดาวโจนส์ ลดลง 230.71 จุด (1.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,109.37 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 21.77 จุด (1.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,846.43 จุด แนสแดก ลดลง 62.91 จุด (1.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,260.42 จุด
วอลล์สตรีทเปิดซื้อขายในแดนบวก ตามหลังรายงานข้อมูลค้าปลีกอันแข็งแกร่งและยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานที่ลดลงในสหรัฐฯ ทว่าเริ่มแกว่งตัวในแดบลบตอนช่วงสาย จากนั้นก็ร่วงลงอย่างหนักจากแรงเทขายในช่วงบ่าย
ส่วนราคาทองคำวานนี้ (13) ขยับขึ้นเล็กน้อย หลังข้อมูลที่น่าวิตกของเศรษฐกิจจีนและสถานการณ์ทางการเมืองในยูเครน ดึงให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,372.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์