เอเอฟพี--ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนระหว่างเดือนม.ค.และก.พ. ขยายตัว 8.6 เปอร์เซนต์ปีต่อปี นับเป็นผลประกอบการที่เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี อีกทั้งเป็นสัญญาณเตือนเศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับสองของโลก กำลังย่ำแย่แล้ว
สำนักงานสถิติแห่งรัฐเผยผ่านเว็บไซต์องค์กรเมื่อวานนี้(13 มี.ค.) ระบุอัตราขยายตัวภาคอุตสาหกรรมซึ่งบ่งชี้ผลผลิตจากกลุ่มโรงงาน เวิร์คช็อป และเหมืองแร่ ขยายตัว 7.3 เปอร์เซนต์ จัดเป็นระดับต่ำที่สุดนับจากเดือนเม.ย.2552
ยอดค้าปลีก เครื่องชี้วัดหลักของการใช้จ่ายผู้บริโภค เติบโตในอัตรา 11.8 เปอร์เซนต์ในช่วงสองเดือนนี้เทียบกับปีก่อนหน้า จัดเป็นระดับต่ำที่สุดเช่นกัน นับจากการขยายตัวที่ 11.6 เปอร์เซนต์ในเดือนก.พ. 2554
การลงทุนภาคสินทรัพย์ถาวร ซึ่งเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายของรัฐบาลด้านโครงสร้างพื้นฐาน ขยาย 17.9 เปอร์เซนต์ ระหว่างช่วงสองเดือนแรกของปีนี้
ทั้งนี้ตัวเลขผลประกอบการภาคเศรษฐกิจช่วงสองเดือนแรกของปีนี้เนื่องมาจากช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน
โจว เฮ่า นักเศรษฐศาสตร์ประจำ ANZ แบงค์ ในนครเซี่ยงไฮ้ ชี้ถึงตัวเลขเศรษฐกิจนี้ว่า “น่ากลัวจริงๆ” เป็นสถานการณ์ย่ำแย่ที่รัฐบาลจะต้องออกนโยบายมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว
“ไม่มีตัวเลขชุดใดที่สอดคล้องกับการคาดการณ์เลย ทุกภาคต่ำกว่าการคาดหมายทั้งสิ้น” โจว บอกกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี
จากการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 13 คน จัดทำโดยวอลล์ สตรีท เจอร์นัล (Wall Street Journal) ได้ผลสรุปการคาดการณ์เศรษฐกิจระดับกลางๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวที่ 9.5 เปอร์เซนต์ และยอดค้าปลีก โต 13.5 เปอร์เซนต์
ธนาคารโซซีเอเต เจเนรัล (Societe Generale) แห่งฝรั่งเศส ระบุในรายงานการวิจัย ว่าผลประกอบการนี้ “ยืนยันถึงการชะลอตัวอย่างรวดเร็วของการเติบโตเศรษฐกิจจีน”
ด้านผู้นำจีนก็กำลังเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเติบโตเศรษฐกิจจากการพึ่งพิงการลงทุนขนาดมโหฬาร มาส่งเสริมความต้องการบริโภคของประชาชนในประเทศ เพื่อเป็นแรงขับดันการพัฒนาประเทศในอนาคต
ในต้นเดือนนี้ จีนประกาศตั้งเป้าอัตราเติบโตฯที่ราว 7.5 เปอร์เซนต์ ในปี 2557 นี้ ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้การขยายตัวเศรษฐกิจหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) แดนมังกร โต 7.7 เปอร์เซนต์เมื่อปี 2556 ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับปีก่อนหน้า อันจัดเป็นผลประกอบการที่ต่ำตกที่สุดนับจากปี 2542
