เอเอฟพี - ในวันพุธ (12) ตำรวจมาเลย์ได้ปฏิเสธข้อสงสัยว่าอาจตัดต่อภาพถ่ายของชาวอิหร่าน 2 คนที่แอบใช้หนังสือเดินทางปลอมขึ้นเครื่องบินเที่ยว MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่หายสาบสูญมาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่มีข้อสงสัยว่า เหตุใดช่วงขาของรูปคนทั้งคู่เหมือนกันมาก อ้างเหตุเพราะการผิดพลาดจากการถ่ายเอกสาร
หลังจากการเปิดเผยถึงผู้โดยสาร 2 รายที่ใช้พาสปอร์ตออสเตรียและอิตาลี ที่ถูกขโมยจาก คริสเตียน โคเซล และ ลุยจิ มาราดี ตามลำดับ ขึ้นเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่หายสาบสูญไปตั้งแต่วันเสาร์ (8) ที่ผ่านมา ด้วยเกรงว่า อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับก่อการร้าย ในวันอังคาร (11) ตำรวจมาเลเซียได้เปิดเผยรูปของชายชาวอิหร่านต้องสงสัย 2 คน ที่ในขณะนี้เป็นที่เชื่อกันว่าเป็น “ผู้ลี้ภัยผิดกฎหมาย” โดยไม่มีส่วนเชื่อมโยงจากเครือข่ายก่อการร้าย แต่ปัญหาจากรูปถ่ายที่เปิดเผยจากเจ้าหน้าที่มาเลย์นั้นเป็นที่โจษจันว่า “ช่วงล่างของชายทั้ง 2 คนนั้นเหมือนกันมากจนเกินไป”
และเป็นผลให้ชาวโซเชียลมีเดียที่เห็นข้อพิรุธนี้ต่างลงความเห็นว่า “อาจเป็นการตัดต่ออย่างจงใจ”
“ทำไมตำรวจมาเลย์ถึงต้องพยายามที่จะทำโฟโต้ชอปช่วงขาของภาพถ่ายชาวอิหร่านที่เป็นผู้ต้องสงสัยแอบใช้เอกสารปลอมขึ้นเครื่องด้วย?? ผู้ใช้โซเชียลมีเดียคนหนึ่งถาม ในขณะที่ผู้ใช้อีกรายได้โพสต์ความเห็นว่า “ทำโฟโต้ชอปได้ห่วยมาก รูปขาเหมือนกันในรูป 2 ใบนี้ พวกเขาเป็นตัวจริงใช่ไหม???”
แต่ อัสมาวาติ อาเหม็ด โฆษกหญิงตำรวจมาเลเซีย ได้โต้ข้อสงสัยเหล่านั้นว่า ภาพส่วนที่แปลกและได้กลายข้อสงสัยนั้นเกิดมาจากความผิดพลาดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางรูปถ่ายซ้อนกันในระหว่างที่ทำการถ่ายเอกสาร
“มันไม่ได้เป็นการกระทำเพื่อจงใจให้ไขว้เขว หรือมีความมุ่งร้าย” อาเหม็ดเผยต่อเอเอฟพี และย้ำว่า ได้อธิบายต่อนักข่าวช่างภาพบางคนเมื่อรูปภาพเหล่านี้ถูกแจกจ่ายออกไป
ข้อผิดพลาดนี้เหมือนกับเป็นเชื้อไฟทำให้เกิดข้อตำหนิในวงกว้างขึ้นต่อเจ้าหน้าที่มาเลย์ที่ถูกกล่าวหาว่า แถลงข่าวสับสับตั้งแต่แรกเกิดเหตุเครื่องบินที่ได้หายไป
ซึ่งทางตำรวจอินเตอร์โพลได้ระบุถึงชายชาวอิหร่าน 2 คนที่แอบใช้หนังสือเดินทางปลอมขึ้นเครื่องว่าคือ ปูเรีย นูร์ โมฮัมหมัด เมห์รดาด (Pouria Nour Mohammad Mehrdad) วัย 19 ปี ชาวอิหร่าน ถือหนังสือเดินทางออสเตรีย และ เดลาวาร์ เซเยด โมฮัมมาเดรซา (Delavar Seyed Mohammadreza) วัย 29 ปี ชาวอิหร่าน ถือหนังสือเดินทางอิตาลี ซึ่งหนังสือเดินทางทั้ง 2 เล่มนี้ถูกขโมยจากจ.ภูเก็ตในไทย ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่าคนทั้งคู่เป็นผู้ลี้ภัยผิดกฎหมายที่เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อต่อเครื่องบินเดินทางเข้ายุโรปต่อไป