xs
xsm
sm
md
lg

ลิเบีย “ขู่ฟ่อ” จะบอมบ์เรือบรรทุกน้ำมัน “โสมแดง” หากขนน้ำมันที่ซื้อจากกบฏออกจากท่าเรือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรือบรรทุกน้ำมันชักธงเกาหลีเหนือ ที่เข้าเทียบท่าเรือ เอส ซิเดอร์ ซึ่งถูกกลุ่มกบฏยึดครองตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
รอยเตอร์ - ลิเบียออกมาข่มขู่ว่าจะระเบิดเรือบรรทุกน้ำมันชักธงชาติเกาหลีเหนือวานนี้ (8 มี.ค.) หากเรือลำนี้พยายามนำน้ำมันออกจากท่าเรือที่ถูกกลุ่มกบฏยึดครอง ในความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์จากการขายน้ำมันของลิเบียที่ทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
นายกรัฐมนตรี อาลี ไซดาน แห่งลิเบีย
เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการขายน้ำมันเผยว่า ตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม กลุ่มกบฏได้เข้ายึดครองท่าเรือสำคัญ 3 แห่งของลิเบียเพื่อกดดันให้รัฐบาลลิเบียทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา ด้วยการมอบอำนาจในการปกครองดินแดนมากขึ้น และกลุ่มกบฏยังออกมากล่าวเตือนตริโปลีไม่ให้ก่อเหตุโจมตีเพื่อขัดขวางการขายน้ำมัน ภายหลังที่เรือลำหนึ่งซึ่งแล่นมาเทียบท่า “เอส ซิเดอร์” ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้เริ่มลำเลียงน้ำมันดิบขึ้นเรือตั้งแต่เมื่อคืน

อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทเรื่องน้ำมันเป็นเพียงหนึ่งในชนวนเหตุความขัดแย้ง ที่ปะทุขึ้นในชาติแอฟริกาเหนือ ซึ่งเป็นสมาชิกโอเปกแห่งนี้ ขณะที่รัฐบาลกำลังเพียรพยายามควบคุมกลุ่มหัวรุนแรงที่เคยให้ความร่วมมือเพื่อโค่นล้มอำนาจ พันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อปี 2011 ทว่าตอนนี้กลับนำอาวุธที่เคยใช้ในอดีตมาต่อกรกับรัฐบาลลิเบีย

สถานีโทรทัศน์ลิเบีย ซึ่งถูกกลุ่มผู้ประท้วงเข้ายึดครองได้นำคลิปวิดีโอบันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะกลุ่มกบฏที่มีจุดยืนสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนจัดพิธีการที่กินเวลานาน และล้มอูฐเพื่อนำมาฉลองการส่งออกน้ำมันครั้งแรกของพวกเขา วิดีโอคลิปยังเผยให้เห็นว่ามีเรือบรรทุกน้ำมันที่จอดอยู่ไกลๆ โดยสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ระบุว่า กลุ่มกบฏได้จัดพิธีการดังกล่าวขึ้นที่ท่าเรือ เอส ซิเดอร์

นายกรัฐมนตรี อาลี ไซดาน แห่งลิเบียได้ปรากฏตัวทางโทรทัศน์ เพื่อเตือนบรรดาลูกเรือของเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าวว่า “เรือลำนี้จะต้องถูกเผา หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเมื่อแล่นออก (จากท่าเรือ) สิ่งที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นมหันตภัยต่อสิ่งแวดล้อม” ไซดานกล่าว

“ตอนนี้พวกเขากำลังพยายามขนถ่ายน้ำมันไปไว้ในเรือ” เขากล่าว พร้อมทั้งประณามการกระทำเช่นนี้ว่าเป็นอาชญากรรม ขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจได้ออกหมายจับพวกลูกเรือของเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าวแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กองกำลังติดอาวุธของลิเบียยังไม่มีทีท่าว่าจะมุ่งไปที่ท่าเรือ โดยเหล่านักวิเคราะห์กล่าวว่า กองทัพซึ่งยังอยู่ระหว่างการฝึกซ้อม จะต้องเผชิญศึกหนักกับพวกกบฏที่เคยลุกฮือขึ้นต่อต้าน กัดดาฟีนานถึง 8 เดือน

ไซดานยอมรับว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพลิเบียพลาดพลั้งไม่ได้บังคับใช้กฎหมาย เพื่อยับยั้งไม่ให้กลุ่มผู้ประท้วงส่งกำลังเสริมจากฐานที่มั่น อัญดอบิเยาะห์ ทางตะวันตกของเมืองเบงกาซี ไปยังท่าเรือ เอส ซิเดอร์
กลุ่มกบฏภายใต้การนำของ อิบรอฮิม จัธรัน คอยคุ้มกันทางเข้าท่าเรือ เอส ซิเดอร์ ในเมืองรัส ลานุฟ ทางภาคเหนือของลิเบีย
“ยังไม่มีการลงมือทำอะไรสักอย่าง” ไซดานกล่าว พร้อมเสริมว่า พวกพรรคฝ่ายค้านในรัฐสภาลิเบียกำลังขัดขวางรัฐบาลของเขา ทั้งยังบอกว่า เกาหลีเหนือได้ขอให้กัปตันของเรือลำนี้แล่นเรือออกจากท่าเรือ แต่ถูกกลุ่มผู้ประท้วงติดอาวุธห้ามเอาไว้

ทางด้าน อับบ์-รับโบ อัลบารัซซี ผู้ที่ตั้งตนเป็นนายกรัฐมนตรีของขบวนการประกาศเอกราช ทางภาคตะวันออกของลิเบีย กล่าวว่า ไซดานไม่ทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา ที่ต้องการให้แบ่งผลประโยชน์จากการขายน้ำมัน ให้ตรวจสอบการคอร์รัปชันน้ำมัน และให้มอบอำนาจการปกครองในพื้นที่แถบนี้ให้แก่พวกเขา

ทั้งนี้ การส่งออกน้ำมันได้โดยอิสระจะทำให้รัฐบาลลิเบียต้องสูญเสียผลประโยชน์ โดยที่ก่อนหน้านี้ตริโปลีได้ออกมากล่าวว่า จะทำลายเรือบรรทุกน้ำมันที่พยายามซื้อน้ำมันจาก อิบรอฮิม จัธรัน อดีตกบฏต่อต้านกัดดาฟี ซึ่งนำไพร่พลหลายพันคนเข้าแย่งชิงท่าเรือนี้ และอีกสองแห่งมา เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา

ทางฝ่ายแหล่งข่าวที่รับผิดชอบหน้าที่ส่งออกน้ำมันชี้ว่า การที่มีเรือชักธงชาติเกาหลีเหนือเข้ามาปฏิบัติการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้นเป็นเรื่องผิดปกติเป็นอย่างมาก
บรรดาผู้ประท้วงชาวลิเบีย ออกมาชุมนุมต่อต้านการกลับมาของกลุ่มกบฏที่โค่นล้มอำนาจการปกครองพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อปี 2011 ที่เมืองเบงกาซี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 มี.ค.)
กำลังโหลดความคิดเห็น