เอเจนซีส์ - ลิเบียได้ทำลายอาวุธเคมีที่มีอยู่ในความครอบครองเสร็จสิ้นแล้ว โมฮาเม็ด อับเดลลาซิส รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศลิเบียเผยในวันอังคาร (4 ก.พ.)
ซึ่งโมฮาเม็ด อับเดลลาซิส รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศลิเบียได้ให้สัมภาษณ์ว่า อาวุธเคมีที่ถูกทำลายนี้รวมไปถึง ระเบิด และมิสไซล์ที่มีมัสตาร์ดแก๊สบรรจุอยู่ โดยในปี 2004 ลิเบียได้เปิดเผยว่า ในคลังแสงมีมัสตาร์ดแก๊สเก็บอยู่จำนวน 25 ตัน และมิสไซล์อีกจำนวนหลายหมื่นลูกที่รอการบรรจุแก๊สพิษเคมี ซึ่งกรุงตริโปลีได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี CWC ที่สัญญาว่าจะทำลายอาวุธเคมีที่ลิเบียครอบครองอยู่
“ในขณะนี้ลิเบียเป็นประเทศที่ปราศจากการใช้อาวุธเคมี ที่การครอบคอรงนี้อาจถือเป็นการคุกคามต่อความมั่นคงของชุมชนท้องถิ่น สิ่งแวดล้อม และประเทศเพื่อนบ้าน” อับเดลลาซิสกล่าวในวันอังคาร (4) ที่กรุงตริโปลี
นอกจากนี้ อับเดลลาซิสยังให้สัมภาษณ์ต่อว่า “ความสำเร็จนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาระยะสั้นหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากประชาคมนานาชาติ ที่รวมถึงความช่วยเหลือด้านเทคนิคจากแคนาดา เยอรมนี และสหรัฐฯ”
ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศลิเบียยืนยันว่า กระบวนการทำลายอาวุธเคมีได้เสร็จสิ้นลงไปแล้วเมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยอับเดลลาซิสนั้นให้สัมภาษณ์ร่วมกับอาเหม็ต อูซุมกู (Ahmet Uzumcu) ผู้อำนวยงานองค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี หรือ OPCW ซึ่งอูซุมกูได้เข้าเยี่ยมสถานที่ใช้สำหรับการทำลายอาวุธเคมีที่รูวากฮา (Ruwagha)ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเขาได้แถลงว่า “การเสร็จสิ้นการทำลายอาวุธเคมีนี้เป็นเสมือนก้าวที่สำคัญสำหรับลิเบีย”
นอกจากนี้ อูซุมกูยังเสริมว่า “นี่เป็นตัวย่างที่ดีของการร่วมมือในระดับนานาชาติ ที่ในขณะนี้กำลังทำเช่นเดียวกันกับซีเรียที่มีความร่วมมือในระดับที่ใหญ่กว่า”
ซึ่งกระบวนการทำลายอาวุธเคมีนั้นได้เริ่มเมื่อ 10 ปีมาแล้วภายใต้ผู้นำเผด็จการของลิเบีย มูอัมมาร์ กัดดาฟี ในเวลาที่รัฐบาลของเขาได้เข้าร่วมอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี CWC ซึ่งรัฐบาลของกัดดาฟีประสบความสำเร็จในการทำลายมัสตาร์ดแก๊สราว 54% ของจำนวนทั้งหมดที่ลิเบียได้ประกาศมีอยู่ในความครอบครอง และจำนวน 40% ของสารเคมีตั้งต้น ก่อนที่ปฏิบัติการทำลายจะหยุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 เมื่ออุปกรณ์ในกระบวนการทำลายอาวุธเคมีนั้นได้หยุดทำงานลง
และต่อมากัดดาฟีได้ถูกโค่นออกจากอำนาจลงหลังจากนั้นในปี 2011 และผู้นำประเทศคนใหม่ของลิเบียได้เปิดเผยต่อผู้ตรวจการของ OPCW ถึงจำนวนอาวุธเคมีในสต็อกที่กัดดาฟีได้แอบซ่อนประชาคมชาวโลกไว้
ซึ่งอาวุธที่ถูกลิเบียทำลายทิ้งนั้นถูกจัดอยู่ใน “อาวุธเคมีประเภท 1” OPCW กล่าว โดยทางองค์กรเผยว่า มัสตาร์ดแก๊สนั้นถูกใช้เป็นอาวุธเคมีในอดีต และอาจยังใช้อยู่ในบางที่ ซึ่งถือว่าการใช้อาวุธเคมีประเภทนี้เป็นภัยคุกคามโดยตรง” ต่ออนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี CWC
นอกจากนี้ ทางองค์กรยังเสริมต่อว่า สารเคมีตั้งต้นที่ถูกจัดเป็น สารเคมีประเภท 2 นั้นจะได้รับการทำลายโดยสมบูรณ์จากรัฐบาลลิเบียก่อนเดือนธันวาคม 2016 ซึ่งสารเคมีตั้งต้นเหล่านี้ได้รับการนิยามว่า “เป็นสารเคมีที่เกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตแก๊สพิษ” ซึ่งสารเคมีส่วนใหญ่ประเภทนี้ถูกใช้ในแวดวงอุตสาหกรรม
