รัสเซียอพยพ จนท.สถานทูตออกจากลิเบีย หลังถูกกลุ่มติดอาวุธโจมตีแก้แค้น

เอเจนซี - รัสเซียต้องอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตและครอบครัวออกจากลิเบียในวันพฤหัสบดี (3) ตามหลังเหตุกลุ่มคนติดอาวุธพยายามบุกจู่โจมสถานที่ประจำกรุงตริโปลี จนมีการยิงปะทะตอบโต้กัน

ถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า ผู้โจมตีกลุ่มนี้ต้องการมาแก้แค้นให้กับเจ้าหน้าที่ทหารลิเบียนายหนึ่งซึ่งถูกสตรีชาวรัสเซียที่พำนักอยู่ในกรุงตริโปลีฆาตกรรม อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดก็สลายตัวไปหลังถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยของสถานทูตยิงตอบโต้ ขณะที่รายงานข่าวระบุว่ามีผู้ก่อเหตุคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต และอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บ “ญาติๆ และเพื่อนๆ ของทหารลิเบียที่ถูกฆ่า ตัดสินใจแก้แค้นให้กับเขา ด้วยการโจมตีสถานทูตรัสเซีย”

การตัดสินใจอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตออกจากลิเบียครั้งนี้ มีขึ้นหลังการเดินทางมาตรวจเยี่ยมของนายโมฮัมเมห็ด อับเดลาซิซ รัฐมนตรีต่างประเทศตริโปลี โดยรัฐมนตรีต่างประเทศรายนี้บอกกับเอกอัครราชทูตรัสเซียว่า ลิเบียไม่อยู่ในสถานะที่สามารถรับประกันความปลอดภัยแก่สถานทูตมอสโกและให้คำแนะนำว่าควรอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูต

ในถ้อยแถลงของกระทรวงการต่างประเทศมอสโกบอกต่อว่า ระหว่างเหตุจู่โจมนั้นเจ้าหน้าที่สถานทูตและครอบครัวถูกอพยพไปยังห้องที่มีความปลอดภัย และในวันพฤหัสบดี (3) ทั้งหมดได้เดินทางไปยังตูนิเซียแล้ว และคาดหมายว่าจะกลับถึงรัสเซียวันศุกร์ (4)

เหตุโจมตีดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ผันผวนในลิเบีย กว่า 2 ปีนับตั้งแต่ประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟี ถูกโค่นล้ม รวมถึงปัญหาต่างๆ นานาที่รัสเซีย อดีตพันธมิตรของนายกัดดาฟีต้องเผชิญ ขณะมอสโกพยายามกู้คืนเงินลงทุนทางพลังงานและข้อตกลงทางอาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์กลับคืนสู่เส้นทางอีกครั้ง

กระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลรัสเซีย บอกปัดว่าเหตุจู่โจมดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง และยืนยันว่ามีต้นตอจากคดีฆาตกรรม พร้อมเผยว่าสตรีผู้ก่อเหตุอยู่ภายใต้การควบคุมของทางการลิเบียแล้ว ด้วยเธอยังถูกกล่าวหาใช้เลือดของผู้ตายเขียนถ้อยคำก้าวร้าวบนกำแพงและแทงมารดาของผู้ตายจนได้รับบาดเจ็บด้วย

เหล่าสำนักข่าวของรัสเซียรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายติดอาวุธปืนใช้รถยนต์ 2 คันเป็นยานพาหนะ สาดกระสุนเข้าใส่สถานทูต ขณะที่แหล่งข่าวทางการทูตเสริมว่าจากนั้นก็คนราว 60 คนก็พยายามจู่โจมเข้าไปภายใน แต่ก็ต้องล่าถอยและสลายตัวไปหลังโดนหน่วยรักษาความปลอดภัยยิงตอบโต้

ศึกระหว่างตระกูลและชนเผ่า เช่นเดียวกับกลุ่มอิสลามิสต์ เติบโตขึ้นเรื่อยๆ สืบเนื่องจากการขาดหายไปของรัฐบาลที่เข้มแข็งในลิเบีย ด้วยเหตุนี้หน่วยความั่นคงจึงประสบปัญหาในความพยายามธำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้กลุ่มนักรบดำเนินการโจมตีต่อคณะทูตชาติตะวันตกหลายต่อหลายครั้ง ในนั้นรวมไปถึงเหตุการณ์กลุ่มนักรบที่เชื่อมโยงกับอัลกอดิะห์จู่โจมสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเบงกาซีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2012 อันส่งผลให้เอกอัครราชทูตคริสโตเฟอร์ สตีเฟ่นส์ และชาวอเมริกันคนอื่นๆ อีก 3 รายเสียชีวิต