เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 88 คน และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 130 ราย หลังเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดทางเชื้อชาติ นานต่อเนื่อง 2 สัปดาห์นับตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมเป็นต้นมา ที่เมืองเซ็บฮา เมืองสำคัญทางภาคใต้ของลิเบีย
รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวทางการแพทย์ในพื้นที่ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจากเหตุรุนแรงทางเชื้อชาติที่เมืองเซ็บฮาอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยมีการลำเลียงร่างผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตไปยังโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วภาคใต้ของลิเบีย และยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่มีอย่างน้อย 88 คนแล้วนั้น ยังมิได้นับรวม เหยื่อจากเหตุปะทะกันระลอกล่าสุดที่เกิดขึ้นในวันเสาร์ (25)
ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างชนกลุ่มน้อยเผ่า “ตูบู” ซึ่งมิใช่ชาวอาหรับ กับกลุ่มติดอาวุธของพวกอาหรับที่เรียกตัวเองว่าออว์เล็ด สไลมาน
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเซ็บฮา ส่งผลให้ทางการลิเบียต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่อาจยุติเหตุรุนแรงในเมืองเซ็บฮาที่เป็นบ้านของประชากรราว 130,000 คน และอยู่ห่างจากกรุงตริโปลีไปทางใต้ราว 640 กิโลเมตรได้
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศของอียิปต์ ประกาศอพยพเจ้าหน้าที่ของตนประจำสถานทูตในกรุงตริโปลี รวมถึงสถานกงสุลที่เมืองเบงกาซี หลังเกิดเหตุนักการทูตอียิปต์ในลิเบียถูกลักพาตัวไปแล้วถึง 5 คน
ทั้งนี้ ลิเบีย ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในดินแดนที่มั่งคั่งและมีเสถียรภาพมากที่สุดในทวีปแอฟริกา ได้กลายสภาพเป็นดินแดนแห่งความขัดแย้งและไร้ขื่อแปหลังจากที่ระบอบการปกครองของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ถูกโค่นล้มเมื่อช่วงปี 2011 โดยมีรายงานว่า บรรดากลุ่มติดอาวุธต่างๆที่เคยจับมือกันโค่นล้มกัดดาฟี ได้หันมาต่อสู้กันเองเพื่อแย่งชิงพื้นที่และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ