เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ – เครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ซึ่งนำผู้โดยสารและลูกเรือรวม 239 ชีวิต เดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่ง “สูญหาย” ขณะบินอยู่เหนือทะเลจีนใต้เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (8) โดยสายการบินได้เริ่มติดต่อญาติของผู้โดยสารเพื่อแจ้งเตือนเหตุการณ์ไม่คาดฝันแล้ว
ทางการมาเลเซีย, จีน และเวียดนาม ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER เที่ยวบินที่ MH370 ซึ่งสูญหายไปจากจอเรดาร์เมื่อเวลาประมาณ 2.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น (1.40 น. ตามเวลาในไทย) หรือประมาณ 2 ชั่วโมงหลังออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยเครื่องบินลำนี้มีกำหนดจะต้องเดินทางถึงกรุงปักกิ่งในเวลา 6.30 น. (5.30 น. ตามเวลาในไทย) ทว่าจนบัดนี้ผ่านมานานกว่า 12 ชั่วโมงก็ยังไม่สามารถระบุพิกัดของเครื่องบินได้
บนเครื่องมีผู้โดยสาร 14 สัญชาติ รวมทั้งสิ้น 227 คน เป็นเด็กทารก 2 คน และมีพนักงานบนเครื่องอีก 12 คน
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติจีนรายงานว่า มีพลเมืองจีนโดยสารมากับเครื่องบินลำนี้ 158 คน
“เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ไม่สามารถติดต่อกับเที่ยวบิน MH370 ซึ่งเดินทางออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อเวลา 02.41 น.เพื่อจะไปยังกรุงปักกิ่ง” อะหมัด เจาฮารี ยะห์ยา ประธานบริหารกลุ่มสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ระบุในถ้อยแถลง พร้อมยืนยันว่าได้ขอความร่วมมือกับทางการเพื่อระบุพิกัดของเครื่องบินลำนี้แล้ว
“ทีมงานของเราได้แจ้งข่าวให้ญาติของผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดทราบแล้ว”
มาเลเซียแอร์ไลน์ส ระบุว่า เที่ยวบิน MH370 ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินมาเลเซียครั้งสุดท้ายขณะอยู่ห่างชายฝั่งตะวันออกของเมืองโกตาบารูประมาณ 120 ไมล์ทะเล โดยไม่ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายใดๆเลย
รัฐบาลเวียดนามแถลงยืนยันล่าสุดว่า เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์สจากกรุงกัวลาลัมเปอร์สูญหายไปขณะบินอยู่ "ใกล้" น่านฟ้าเวียดนาม
“เครื่องบินลำนี้ได้ขาดการติดต่อไปขณะบินอยู่ใกล้ๆ จังหวัดก่าเมา (Ca Mau) และเตรียมจะนำเครื่องเข้าสู่เขตควบคุมการบินของเวียดนาม" ถ้อยแถลงบนเว็บไซต์ของรัฐบาลเวียดนามระบุ โดย จ.ก่าเมา นั้นอยู่ทางตอนใต้สุดของเวียดนาม และมีพรมแดนติดกับกัมพูชา
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวต่างประเทศอื่นๆ รวมถึงสำนักข่าวซินหวาของจีนได้รายงานว่า เที่ยวบิน MH370 เริ่มขาดการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินขณะบินอยู่เหนือน่านฟ้าเวียดนาม ขณะที่สำนักงานการบินจีนยืนยันว่า เครื่องบินลำนี้ยังไม่ได้ผ่านเข้าไปในเขตควบคุมการสัญจรทางอากาศของจีน
ฉิน กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า “เรารู้สึกเป็นห่วงอย่างยิ่งเมื่อทราบข่าวนี้ และกำลังติดต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อยืนยันข้อมูล”
โฆษกหญิงของสนามบินปักกิ่งระบุว่า ทางสนามบินได้เปิดระบบตอบสนองเหตุฉุกเฉินไว้แล้ว และเวลานี้หน้าจอแสดงเที่ยวบินที่สนามบินปักกิ่งยังระบุเพียงว่า เที่ยวบิน MH370 เกิดการ “ดีเลย์”
มาเลเซียได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำและเรืออีก 4 ลำออกค้นหาบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันออกในทะเลจีนใต้ ขณะที่กองทัพเรือฟิลิปปินส์ก็ได้ส่งเรือลาดตระเวน 3 ลำมาช่วยค้นหาอีกแรงหนึ่ง
เจอร์รี โซจัตมาน นักวิเคราะห์ด้านการบินในอินโดนีเซียให้ความเห็นว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินโดยสารลำนี้ แต่เวลา 24 ชั่วโมงภายหลังจากเครื่องบินสูญหายถือเป็น “นาทีทอง” สำหรับปฏิบัติการค้นหาและช่วยชีวิต
“เราไม่ควรคิดกันไปเองว่าคงไม่มีผู้รอดชีวิต และถ้าเกิดมีขึ้นมา พวกเขาก็จะต้องได้รับการช่วยเหลือภายใน 1 วัน ไม่เช่นนั้นโอกาสรอดก็จะยิ่งลดน้อยลง”
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบินนี้จะนับว่าเป็นความเสียหายครั้งใหญ่สำหรับมาเลเซียแอร์ไลน์ส ซึ่งประสบภาวะขาดทุนมาหลายปี เนื่องจากต้องแข่งขันกับสายการบินต้นทุนต่ำที่เติบโตเร็วอย่างแอร์เอเชีย