เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ในปี 4014 นักท่องเที่ยวที่ต้องการเยี่ยมชมหอคอยลอนดอน และอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพอาจได้ดูเพียงภาพเสมือนจริงเท่านั้น งานวิจัยทางภูมิอากาศที่เตือนว่าระดับน้ำทะเลจะขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจนท่วมสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ ระบุวันนี้ (5 มี.ค.)
บรรดานักวิจัยชี้ว่า ขณะที่คนในยุคอารยธรรมสมัยใหม่กำลังหลงใหลกับพีระมิดของอียิปต์ โคลอสเซียมของโรม และวิหารพาร์เธนอนในกรีซ แต่สมบัติของชาติเหล่านี้ ตลอดจนมรดกทางวัฒนธรรมของเราเอง ก็อาจสูญสลายไปเพราะระดับน้ำทะเลที่ขึ้นสูงถึง 1.8 เมตร อันเป็นผลมาจากสภาวะโลกร้อน
ในบรรดาสถานที่กว่า 700 แห่งซึ่ง “องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ” หรือยูเนสโก ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น มีเกือบ 140 แห่งที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมในอีก 2,000 ปีข้างหน้า พวกเขาระบุในงานวิจัยฉบับหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Environment Research Letters”
นอกจากนี้ สถานที่สำคัญในจำนวนดังกล่าวยังรวมถึงโอเปราเฮาส์ในซิดนีย์ เมืองเวนิสของอิตาลี อนุสรณ์สถานสันติภาพเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่น และเกาะร็อบเบนในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เนลสัน แมนเดลา เคยถูกคุมขังนาน 18 ปี
การประมาณการนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐาน ในกรณีที่ระดับน้ำทะเลขยับสูงขึ้นในทิศทางเดียวกับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจากระดับยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม 3 องศาเซลเซียส ขณะที่องค์การสหประชาชาติคาดการณ์ว่า อุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นสูงสุด 2 องศาเซลเซียส
“บทวิเคราะห์ของเราแสดงให้เห็นว่า หากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศยังไม่บรรเทาลง มรดกทางวัฒนธรรมจะได้รับผลกระทบในระยะยาวร้ายแรงเพียงใด” อันเดอร์ส ลีเวอร์มานน์ ผู้ร่วมวิจัยจากสถาบันวิจัยผลกระทบทางสภาพภูมิอากาศพอตสดัม (พีไอเค) ระบุในคำแถลง
ทั้งนี้ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกได้เพิ่มขึ้นจากระดับยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมไปแล้วราว 0.8 องศาเซลเซียส
ข้อมูลของคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ขององค์การสหประชาชาชาติชี้ว่า ภายในสิ้นศตวรรษนี้ อุณหภูมิโลกที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.8 องศาเซลเซียส อาจกระเถิบขึ้นเป็น 4.8 องศาเซลเซียส ในกรณีที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณมาก
ลีเวอร์มานน์และคณะวิจัยได้เริ่มต้นศึกษาว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอาจส่งผลกระทบต่อมรดกทางวัฒนธรรมเช่นไร ภายหลังที่การศึกษาก่อนหน้านี้มักมุ่งความสนใจไปที่ผลกระทบที่มีต่อธรรมชาติ เศรษฐกิจ และการเกษตร