ยูเอสเอทูเดย์ - นิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีสังคมนิยมแห่งเวเนซุเอลา ในวันจันทร์ (24) พยายามระดมฝ่ายสนับสนุนหมายยุติการชุมนุมของฝ่ายต่อต้านการปกครองของเขาที่ยังคงออกมาแสดงพลังปิดกั้นท้องถนนสายต่างๆ ขณะที่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการใช้กำลังเกินขอบเขต จนนำมาซึ่งเหตุปะทะที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 10 ศพ นับตั้งแต่การประท้วงเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
ชาวบ้านที่เพิ่งตื่นนอนตอนเช้าวันจันทร์ (24) ได้พบว่าแนวกั้นที่ทำจากท่อน้ำ ขยะ และกิ่งไม้ ถูกจุดไฟเผาบนท้องถนนสายต่างๆ ขณะเดียวกัน ก็ได้ยินเสียงเคาะหม้อหรือกระทะ เพื่อแสดงการสนับสนุนการเคลื่อนไหวประท้วงต่อต้านนายมาดูโร “เรากำลังต่อสู้เพื่อเสรีภาพของเรา” เยเซเนีย อัลวาราโด วัย 29 ปี กล่าว “มันโหดร้ายที่เราต้องทำให้เมืองเป็นอัมพาต เราเสียใจ เราจำเป็นต้องใช้แท็กติกนี้เพื่อโค่นล้มรัฐบาล”
การสัญจรบนท้องถนนบางสายในกรุงการารัส ต้องเป็นอัมพาตในวันจันทร์ (24) หลังจากผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านยังคงเดินหน้าประท้วงเพื่อแสดงความไม่พอใจเรื่องอัตราอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้น ปัญหาอาหารขาดแคลน ปัญหาคนว่างงาน และภาวะเงินเฟ้อเหนือระดับร้อยละ 50 สูงติดอันดับต้นๆ ของโลก แม้ว่าประเทศจะมีขุมทรัพยากรน้ำมันอันกว้างใหญ่ไพศาล ทั้งนี้ฝ่ายค้านอ้างเหตุปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำของเวเนซุเอลาเกิดจากนโยบายประชานิยมของพรรคโซเชียลลิสต์ที่ใช้มากว่า 15 ปี
อย่างไรก็ตาม อีกฟากหนึ่งก็พบเห็นขบวนรถจักรยานยนต์เคลื่อนผ่านถนนสายต่างๆ เพื่อมุ่งไปยังเวทีชุมนุมที่บริเวณทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งจัดขึ้นโดยนายมาดูโร แต่แก๊งมอเตอร์ไซค์กลุ่มนี้ถูกฝ่ายค้านกล่าวหาว่าไม่ต่างจากกองโจรติดอาวุธ
ในวันจันทร์ (24) ยังไม่มีรายงานเหตุความรุนแรงเลวร้ายใดๆ ขณะที่ตำรวจเข้ารื้อถอนแนวปิดกั้นถนนหลายจุดของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในกรุงการารัส เช่นเดียวกับตามเมืองอื่นๆ ทั้ง มาราไกโบ, วาเลนเซีย, มาราไก, ลา วิคตอเรีย และเมริดา
ฝ่ายต่อต้าน นายมาดูโร จัดการประท้วงทั่วประเทศมาตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ และตั้งแต่นั้นก็มีผู้ชุมนุมหลายคนเสียชีวิตในเหตุถูกยิง
นายมาดูโร ซึ่งก้าวสู่อำนาจเมื่อ 10 เดือนก่อน ตามหลังการถึงแก่อสัญกรรมของฮูโก ชาเบซ กล่าวโทษเหตุความรุนแรงไปที่ฝ่ายต่อต้าน โดยเรียกพวกเขาว่า “ฟาสซิสต์ นาซี” และช่วงสุดสัปดาห์ที่่ผ่านมาก็ขอให้กองทัพเข้าปราบปรามเหล่านักศึกษาที่จัดชุมนุมใหญ่ทางภาคตะวันออกของประเทศ
ทั้งนี้ แม้จะเรียกร้องให้ฝ่ายสนับสนุนออกมาประท้วง แต่อีกด้านหนึ่ง นายมาดูโร ก็เตรียมพูดคยกับเหล่าผู้ว่าราชการจังหวัดของประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(23) เขาเรียกร้องให้มีการเปิดเจรจาในระดับชาติ
ในส่วนของ นายเอ็นริเก คาปริเลส หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุดของเวเนซุเอลาที่ปราชัยในศึกการเลือกตั้งในปีที่ผ่านมา บอกว่าเขาอาจเข้าร่วมในเวทีการหารือระหว่างนายมาดูโร กับเหล่าผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 22 จังหวัด ที่ทำเนียบประธานาธิบดีด้วย แต่ก่อนหน้านั้นเขาโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์เรียกร้องให้โลกเริ่มใช้คำว่า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ประณามพฤติกรรมของนายมาดูโร และตราหน้าเขาว่า “คือความผิดพลาดของประวัติศาสตร์”