เอเจนซีส์ - ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา จำนวนหลายหมื่นคนได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลในช่วงท้ายของการเดินขบวนที่กลางกรุงการากัสเมื่อวานนี้ (22)
การปะทะที่เกิดขึ้นล่าสุดในวันเสาร์ (22) ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลเวเนซุเอลาได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วงเพื่อตอบโต้ก้อนหินที่ผู้ประท้วงได้ระดมปาใส่เจ้าหน้าที่ที่เขตอัลตามิรา
ในขณะที่ผู้สนับสนุนประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลาเดินขบวนเช่นกันในใจกลางกรุงการากัส และในเมืองอื่นๆ
ตั้งแต่เริ่มการประท้วงเป็นเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตไปแล้วทั้งหมด 10 คน ซึ่งมาดูโรได้ประณามการประท้วงว่า เป็นความพยายามการทำรัฐประหารรัฐบาลเขา
นอกจากนี้ มาดูโรยังอ้างว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นแผนของกลุ่มสายอนุรักษ์ที่ได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐฯเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของเขา
“เวเนซุเอลามีระบบประชาธิปไตยที่แข็งแกร่ง แต่สิ่งที่เวเนซุเอลาไม่มี คือฝ่ายค้านในระบบประชาธิปไตย” มาดูโร กล่าวปราศัยท่ามกลางผู้สนับสนุนเขาเมื่อวานนี้ (22) ในกรุงการากัสที่เริ่มการประท้วงมาได้ 11 วันแล้ว
มาดูโรขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำของประเทศในเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวซ
ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา เอ็นริเก คาปริเลส ที่ปราชัยในศึกการเลือกตั้งในปีที่ผ่านมาเป็นผู้นำการประท้วงในกรุงการากัส
คาปริเลสได้กล่าวโจมตีต่อการจับกุม ลีโอโปลโด โลเปซ เพื่อนฝ่ายค้านในคดีเป็นเหตุในเกิดความรุนแรงในวันอังคาร (18) และเขายังได้เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนยังคงดำเนินการประท้วงต่อไป แต่ให้หลีกเลี่ยงความรุนแรงทุกชนิด
“มีเหตุผลเป็นที่ทำให้ต้องทำให้พวกเราเดินเท้าลงสู่ท้องถนน มีปัญหาเป็นล้านที่ทำให้เวเนซุเอลาต้องทนทุกข์ แต่การประท้วงที่พวกเราทำอยู่นี้ต้อง “ต่าง” ออกไป” คาปริเลสกล่าว
สิ่งที่ฝ่ายค้านใช้เป็นเหตุผลหลักในการเดินขบวน คือปัญหาอาชญากรรมในประเทศ เงินเฟ้อ การขาดแคลนสินค้าขั้นพื้นฐาน เช่น กระดาษชำระ ซึ่งฝ่ายค้านอ้างเหตุปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำของเวเนซุอเลาเกิดจาก “นโยบายประชานิยม” ของพรรคโซเชียลลิสต์ที่ใช้มากว่า 15 ปี
นอกจากนี้ฝ่ายต่อต้านมาดูโรยังเดินขบวนที่ทางตะวันตกของรัฐตาชิรา และรัฐเมริดา