เอเอฟพี - รัฐบาลจีนตำหนิสหรัฐฯ “ก้าวก่ายกิจการภายใน” หลังจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา เป็นเจ้าภาพต้อนรับองค์ทะไลลามะ ผู้นำจิตวิญญาณชาวทิเบต ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (21 ก.พ.) โดยยังเตือนให้วอชิงตันหามาตรการยับยั้งไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศย่ำแย่ลงไปกว่านี้
“สหรัฐฯ กำลังก้าวก่ายกิจการภายในของจีนอย่างร้ายแรงด้วยการอนุญาตให้ทะไลลามะเข้าประเทศ และยังเปิดโอกาสให้เข้าพบผู้นำระดับสูงของอเมริกาด้วย” ฉิน กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุในถ้อยแถลง
“เราขอให้สหรัฐฯ ใส่ใจความกังวลของจีนอย่างจริงจัง หยุดสนับสนุนกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่ต่อต้านรัฐบาลจีน หยุดก้าวก่ายกิจการภายในของจีน และหยุดใช้อิทธิพลสร้างความเสียหายต่างๆ เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทรุดหนักไปกว่านี้”
จีนได้ส่งสัญญาณเตือนตั้งแต่วันศุกร์ (21) ว่า การพบปะระหว่าง โอบามา กับองค์ทะไลลามะจะบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง และขอให้สหรัฐฯยกเลิกกำหนดการดังกล่าวเสีย เนื่องจากจีนถือว่าทิเบตเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน และมองว่าองค์ทะไลลามะเป็น “แกนนำแบ่งแยกดินแดน”
อย่างไรก็ดี แผนการพบปะยังคงเกิดขึ้นตามกำหนดเดิม โดย โอบามา ยังประกาศด้วยว่า สหรัฐฯสนับสนุนการปกป้องสิทธิมนุษยชนชาวทิเบตในจีน “อย่างเต็มที่”
ต่อมาเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (21) จาง เย่สุ่ย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เรียกอุปทูตสหรัฐฯ ณ กรุงปักกิ่ง แดเนียล คริเทนบริงค์ เข้าพบ เพื่อประท้วงการพบปะระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับองค์ทะไลลามะ
กระทรวงการต่างประเทศจีนได้อ้างคำพูดของ จาง ซึ่งกล่าวว่า “จีนขอแสดงความไม่พอใจและคัดค้านอย่างรุนแรงต่อการกระทำที่ผิดพลาดของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการก้าวก่ายกิจการภายในของเรา”
“ปัญหาทิเบตเป็นกิจการภายในของจีนโดยแท้ สหรัฐฯ ไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย”
จาง ระบุด้วยว่า การที่ โอบามา พบกับผู้นำจิตวิญญาณชาวทิเบตโดยไม่ฟังคำทัดทานของจีน “จะบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯเองด้วย”
“หลังจากนี้สหรัฐฯ จะต้องมีมาตรการบางอย่างที่เป็นรูปธรรม เพื่อฟื้นคืนความเชื่อมั่นของรัฐบาลและประชาชนชาวจีน”
องค์ทะไลลามะทรงลี้ภัยอยู่ในอินเดียตั้งแต่ปี 1959 หลังการลุกฮือปลดปล่อยทิเบตจากการปกครองของจีนไม่ประสบผลสำเร็จ