“มิชชันนารีออสซี” ที่ถูกจับในเกาหลีเหนือ “ยอมรับ” ไม่ได้ไปเที่ยวเพียงอย่างเดียว

เอเอฟพี - ชายชาวออสเตรเลียที่ถูกเกาหลีเหนือจับกุม “ยอมรับ” ว่าตนเองไม่ได้เดินทางเข้ารัฐโสมแดงในฐานะนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว สื่อออสเตรเลียรายงานวันนี้ (20 ก.พ.)

จอห์น ชอร์ต วัย 75 ปี ซึ่งเป็นชาวเมืองแอดิเลด ถูกตำรวจโสมแดงบุกเข้าจับกุมที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเปียงยางเมื่อวันจันทร์ (17) หลังเดินทางเข้าเกาหลีเหนือพร้อมกับนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งเมื่อ 2 วันก่อนหน้า

คาเรน ชอร์ต ซึ่งเป็นภรรยาของครูสอนศาสนารายนี้เล่าว่า สามีถูกจับกุมในข้อหาเผยแพร่ใบปลิวสอนศาสนาคริสต์และพยายามโน้มน้าวให้คนเปลี่ยนศาสนา ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายในเกาหลีเหนือ

โสมแดงมองว่า คำสอนของมิชชานารีเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุให้ประชาชนกล้าแข็งขืนกับรัฐบาล

สำนักข่าวออสเตรเลียน บรอดคาสติง คอร์ปอเรชัน รายงานว่า ชอร์ตเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลีเหนือพร้อมกับชาวจีนที่ชื่อว่า หวัง จง ซึ่งนับถือคริสต์เช่นกัน

หวัง ให้สัมภาษณ์หลังกลับมาถึงกรุงปักกิ่งแล้วว่า ปัญหาเกิดขึ้นขณะที่ทั้งคู่ไปเยือนวัดพุทธแห่งหนึ่ง และชอร์ตได้นำใบปลิวสอนศาสนาคริสต์ออกมาทิ้งไว้ที่นั่น

“พวกเขาพาเราไปที่ภูเขาแห่งหนึ่งเพื่อเยี่ยมชมวัดพุทธ เราพบว่าพระพุทธรูปเหมือนถูกใครทุบจนแตกหัก ประตูวัดก็อยู่ในสภาพเสียหายเหมือนกัน” จง ให้สัมภาษณ์กับสื่อออสเตรเลีย

“พวกเขาไม่อยากให้เราเห็นความเสียหายเหล่านั้น เราถ่ายภาพเอาไว้บางส่วน แต่เมื่อเขาขอให้เราลบทิ้ง เราก็ยอมลบ”

“คุณชอร์ตเป็นคนที่เชื่อมั่นในพระเจ้า ผมเองก็เชื่อเหมือนกัน เขารู้สึกไม่สบายใจจึงนำใบปลิวเกี่ยวกับคำสอนของพระเยซูวางทิ้งไว้ที่นั่นแผ่นหนึ่ง”

มัคคุเทศก์ท้องถิ่นซึ่งเป็นชาวเกาหลีเหนือได้แจ้งเรื่องนี้ต่อทางการ และเมื่อตำรวจโสมแดงเข้าตรวจสอบก็พบใบปลิวสอนศาสนาคริสต์ที่พิมพ์ภาษาเกาหลีจำนวนมากอยู่ในกระเป๋าเดินทางของ ชอร์ต

สถานีโทรทัศน์เอบีซีรายงานว่า บริษัททัวร์จีน “บีทีจี” ที่พาชอร์ต และหวัง เข้าไปท่องเที่ยวได้พยายามติดต่อหุ้นส่วนในเกาหลีเหนือ ขณะที่พนักงานบริษัทซึ่งมีนามว่า หาน เว่ยผิง อ้างว่า ชอร์ต ยอมรับแล้วว่าไม่ได้เข้าไปท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว

“เมื่อเราโทรศัพท์ไปถามบริษัททัวร์ในเกาหลีเหนือ พวกเขาบอกว่า ชอร์ต ยอมรับเองว่าไม่ได้เข้าไปท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว... เรื่องใบปลิวเกิดขึ้นระหว่างการท่องเที่ยววันที่สอง” เว่ยผิง ให้สัมภาษณ์กับเอบีซี พร้อมระบุว่าแพกเกจทัวร์ดังกล่าวกินเวลาทั้งสิ้น 4 วัน

“ในวันที่สาม มัคคุเทศก์จะพาพวกเขาไปเยี่ยมชมสถานที่อื่นๆ อีก แต่ชายชาวออสเตรเลียคนนั้นบอกว่าไม่อยากไป และขอพักอยู่ในโรงแรมแทน... ดังนั้นเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือจึงเริ่มสงสัยว่าเขาอาจจะไม่ใช่นักท่องเที่ยวธรรมดา”

รัฐบาลแคนเบอร์ราซึ่งทราบเรื่องที่ ชอร์ต ถูกจับกุมได้พยายามประสานกับสถานทูตสวีเดนในกรุงเปียงยาง ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้แทนรักษาผลประโยชน์ เนื่องจากออสเตรเลียไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตโดยตรงกับเกาหลีเหนือ

ชอร์ต เดินทางจากบ้านเกิดในเมืองแอดิเลดมาอาศัยอยู่ในเอเชียนานกว่า 50 ปี โดยเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งบนเกาะฮ่องกงซึ่งพิมพ์ปฏิทิน, พระคัมภีร์ไบเบิล และหนังสือเล่มเล็กเป็นภาษาจีนและภาษาอื่นๆ

แม้รัฐธรรมนูญเกาหลีเหนือจะรับรองเสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่ใช่เช่นนั้น พิธีกรรมทางศาสนายังถูกจำกัดอยู่เฉพาะคนบางกลุ่มที่ได้รับอนุญาตและเกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาล