“เฉลิม” ออกโรงป้อง “นายใหญ่” หลังองค์กรต้านคอร์รัปชันยื่นหนังสือถึงทูตสวีเดน คัดค้านการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ชี้เป็นความเข้าใจผิด เพราะคดีที่ดินรัชดาฯไม่ใช่คอร์รัปชัน แค่ปัญหาทางกฎหมาย
วันนี้ (5 พ.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) กล่าวถึงข้อเท็จจริงกรณีนางชฎา วัฒนศิริธรรม รองประธานสภาองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อสถานทูตสวีเดนคัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า การที่นางชฎาได้ยื่นหนังสือต่อสถานทูตสวีเดน คัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม และแจ้งวัตถุประสงค์ในการต่อต้านคอร์รัปชันขององค์กรนั้น เป็นความเข้าใจผิด กรณีการซื้อที่ดินถนนรัชดาภิเษกของภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่การคอร์รัปชัน แต่เป็นปัญหาทางด้านกฎหมาย การที่ภรรยาได้ซื้อที่ดินขายทอดตลาดจากกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม โดยการประมูลและจ่ายเงินซื้อโดยชอบตามกฎหมายเปิดช่องว่าสามีไม่ต้องให้ความยินยอมก็ได้ เนื่องจากเป็นเรื่องของการซื้อไม่ใช่การขายทรัพย์ ผู้ยื่นจดหมายไม่มีความเข้าใจต่อข้อกฎหมาย กรณีนี้จึงเป็นการซื้อขายตามปกติธรรมดา ไม่ใช่การทุจริต
ทั้งนี้ คดีที่กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำความผิด เป็นคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 278 วรรคสอง คดีเป็นที่สิ้นสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีสิทธิอุทธรณ์คดีนี้ได้อีก ซึ่งกฎหมายของประเทศไทยดังกล่าวขัดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR Article 14(5) ที่ระบุว่า ทุกคนที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิดต้องมีสิทธิได้รับการทบทวนคำพิพากษาจากศาลที่สูงขึ้นไป ซึ่งกรณีนี้ได้ทำหนังสือชี้แจงให้สถานทูตสวีเดน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐประชาชนจีน เดนมาร์ค ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ ได้ทราบแล้ว
วันนี้ (5 พ.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) กล่าวถึงข้อเท็จจริงกรณีนางชฎา วัฒนศิริธรรม รองประธานสภาองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อสถานทูตสวีเดนคัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า การที่นางชฎาได้ยื่นหนังสือต่อสถานทูตสวีเดน คัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรม และแจ้งวัตถุประสงค์ในการต่อต้านคอร์รัปชันขององค์กรนั้น เป็นความเข้าใจผิด กรณีการซื้อที่ดินถนนรัชดาภิเษกของภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่การคอร์รัปชัน แต่เป็นปัญหาทางด้านกฎหมาย การที่ภรรยาได้ซื้อที่ดินขายทอดตลาดจากกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม โดยการประมูลและจ่ายเงินซื้อโดยชอบตามกฎหมายเปิดช่องว่าสามีไม่ต้องให้ความยินยอมก็ได้ เนื่องจากเป็นเรื่องของการซื้อไม่ใช่การขายทรัพย์ ผู้ยื่นจดหมายไม่มีความเข้าใจต่อข้อกฎหมาย กรณีนี้จึงเป็นการซื้อขายตามปกติธรรมดา ไม่ใช่การทุจริต
ทั้งนี้ คดีที่กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำความผิด เป็นคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 278 วรรคสอง คดีเป็นที่สิ้นสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีสิทธิอุทธรณ์คดีนี้ได้อีก ซึ่งกฎหมายของประเทศไทยดังกล่าวขัดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR Article 14(5) ที่ระบุว่า ทุกคนที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิดต้องมีสิทธิได้รับการทบทวนคำพิพากษาจากศาลที่สูงขึ้นไป ซึ่งกรณีนี้ได้ทำหนังสือชี้แจงให้สถานทูตสวีเดน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สาธารณรัฐประชาชนจีน เดนมาร์ค ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ ได้ทราบแล้ว