เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- รัฐบาลอิหร่านภายใต้การนำของประธานาธิบดีสายกลาง “ฮัสซัน โรฮานี” สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ หลังประกาศมาตรการอภัยโทษแก่ “นักโทษประหาร” หากสามารถท่องจำพระคัมภีร์อัลกุรอานที่มีความยาวเกือบ 80,000 คำได้ทั้งหมด
รายงานข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีโรฮานี ผู้นำสายกลางวัย 65 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 7 ของประเทศเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ประกาศบังคับใช้มาตรการใหม่สำหรับ “อภัยโทษ” ให้กับผู้ต้องขังที่ถูกพิพากษาให้รอรับโทษประหารชีวิต โดยมาตรการดังกล่าวมีเงื่อนไขว่า ผู้ต้องขังที่รอการประหารจะสามารถพ้นจากความผิดที่ตนก่อไว้ได้ หากสามารถ “ท่องจำพระคัมภีร์อัลกุรอาน” ที่มีความยาวโดยประมาณมากกว่า 77,430 คำ
ด้าน เรซา ซาเดกี เจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำจังหวัดอิสฟาฮาน ที่ตั้งอยู่ทางภาคกลางของอิหร่านออกมาเปิดเผยว่าในความเป็นจริงแล้ว มาตรการอภัยโทษใหม่ของผู้นำอิหร่านนี้ มีการประกาศบังคับใช้เป็นการภายในมาแล้วระยะหนึ่ง แต่เพิ่งกลายเป็นข่าวฮือฮา เมื่อถูกเผยแพร่ผ่านสื่อ
ซาเดกี ซึ่งเป็นผู้ดูแลหน่วยงานด้านสาธารณกุศลประจำจังหวัดอิสฟาฮานเผยว่า จนถึงขณะนี้ มีนักโทษประหารจำนวน 16 รายในจังหวัดของตนได้รับการอภัยโทษจากผลของมาตรการดังกล่าว โดยนักโทษประหารที่รอดพ้นจากความตายทั้ง 16 คนประกอบด้วยนักโทษสตรี 5 ราย และนักโทษชายอีก 11 คน
รายงานข่าวระบุว่า ในจำนวนนักโทษประหารทั้ง 16 รายที่รอดพ้นจากการถูกนำตัวไปประหาร เพราะสามารถท่องจำเนื้อหาในคัมภีร์อัลกุรอานได้นั้น มีถึง 15 รายที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากพวกเขาสามารถท่องจำพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ได้ทั้ง 77,430 คำ
ส่วนนักโทษประหารอีก 1 ราย ซึ่งไม่สามารถท่องจำพระคัมภีร์ได้ทั้งหมด ก็ได้รับการลดหย่อนโทษเหลือเพียงการจำคุกเป็นเวลา 15 ปีเท่านั้น
ทั้งนี้ โทษประหารชีวิตตามกฎหมายของอิหร่านถูกกำหนดให้ใช้เป็นบทลงโทษผู้ที่กระทำความผิดฐานฆาตกรรม, ข่มขืน, ล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก, ผู้ที่ถูกจับได้ว่ากระทำการร่วมเพศทางทวารหนัก, ค้ายาเสพติด, ก่อเหตุปล้นโดยใช้อาวุธ, การลักพาตัว, รวมถึงความผิดฐานก่อการร้ายและกระทำการ “ทรยศ” ต่อประเทศชาติ โดยมีข้อมูลว่าในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม จนถึงเดือนธันวาคมปี 2013 ที่ผ่านมา มีผู้ถูกประหารชีวิตในอิหร่านสูงถึง 269 ราย
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี), คูเวต รวมถึงผู้ปกครองฉนวนกาซาในปาเลสไตน์ เคยประกาศการลดหย่อนโทษให้กับผู้ต้องขังทั่วไปในเรือนจำมาแล้วหากพวกเขาสามารถท่องจำเนื้อหาในพระคัมภีร์อัลกุรอานได้อย่างน้อย 114 ท่อน แต่อิหร่านกลายเป็นประเทศแรกที่นำแนวคิดดังกล่าวมาใช้กับ “นักโทษประหาร”