เอเจนซี - มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย และอีกหลายหมื่นคนต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้ หลังพายุและลมพัดแรงซัดถล่มสหราชอาณาจักร ซ้ำเติมความทุกข์ยากแก่พื้นที่ประสบอุทกภัยอยู่ก่อนแล้ว และสร้างความสับสนอลหม่านด้านการสัญจรอย่างกว้างขวางในวันพฤหัสบดี (13)
สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งสหราชอาณาจักร ระบุว่าลมกระโชกความเร็วกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซัดถล่มทางตะวันตกของอังกฤษ และเวลส์ เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ขณะที่ยังคงคำเตือนอุทกภัยร้ายแรงในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางใต้และตะวันตกของประเทศ
ตำรวจเปิดเผยว่าพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นชายวัย 70 ปี ต้องสงสัยว่าถูกไฟฟ้าดูด หลังจากต้นไม้โค่นทับสายไฟในเมืองวิลต์เชียร์ ขณะที่อีเนอร์จี เน็ตเวิร์คส แอสโซซิเคชัน บริษัทผู้ให้บริการพลังงาน รายงานว่ามีลูกค้าราว 80,000 คน ที่ยังต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้
หลายพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ต้องจมอยู่ใต้น้ำมานานหลายสัปดาห์ หลังต้องเผชิญเดือนมกราคม ที่ชุ่มฉ่ำที่สุดในรอบเกือบ 250 ปี ตามด้วยฝนฟ้าที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ หลายพื้นที่รอบๆ แม่น้ำเธมส์ ไปจนถึงทางตะวันตกของลอนดอน เช่นเดียวกับพื้นที่เศรษฐกิจอันสำคัญได้จมอยู่ใต้บาดาล หลังน้ำเอ่อล้นตลิ่ง
รัฐบาลซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่อการตอบสนองที่ล่าช้าในการรับมือกับอุทกภัย ให้คำมั่นทุ่มงบประมาณที่จำเป็นทุกอย่างในความพยายามบรรเทาภัยครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ทางสมาชิกพรรคแรงงาน ฝ่ายค้านในรัฐสภา ในวันพฤหัสบดี (13) กล่าวหารัฐบาลแค่ปรับแต่งถ้อยแถลงเก่าในงบประมาณซ่อมแซมและเสริมประสิทธิภาพของระบบสาธารณูปโภคด้านการขนส่ง แล้วนำมาเสนอขอเงินก้อนใหม่สำหรับนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
แพทริค แมคลัฟลิน รัฐมนตรีคมนาคม บอกว่าในการประชุมคณะกรรมาธิการสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลเมื่อวันพุธ (12) ที่ผ่านมา ได้มีการหยิบยกคำถามเกี่ยวกับการยื่นขอใช้เงินจาก EU Solidarity Fund (กองทุนอียูเพื่อช่วยเหลือเมื่อประเทศสมาชิกใดประสบภาวะขับขัน)
อย่างไรก็ตาม นิค เคลกก์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ผ่านสถานีวิทยุ ย้ำว่าในมุมมองของรัฐบาล เชื่อว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องแปรเปลี่ยนงบประมาณช่วยเหลือของต่างชาติเข้าช่วยเหลือชุมชนต่างๆ ที่ประสบอุทกภัย หลังจากมีชาวบ้านกว่า 170,000 คน ลงนามในหนังสือคำร้องที่จัดทำโดยหนังสือพิมพ์เดลิเมล์ ให้นำเงินของกองทุนดังกล่าวมาใช้
นักวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์จากสถาบันพีดับเบิลยูซีและดีลอยท์ บอกว่าเหล่าบริษัทประกันภัย อาจต้องสูญเงินชดเชยราว 830 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับค่าความเสียหายจากอุทกภัย ด้วยนับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นมา มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบแล้วมากกว่า 5,600 หลัง
หน่วยฉุกเฉินเปิดเผยว่าพวกเขาช่วยเหลือประชาชนมากกว่า 850 ราย จากบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเธมส์ในเซอร์เรย์ ขณะที่ระดับน้ำในบางจุดของแม่น้ำเธมส์ เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 60 ปี ขณะเดียวกัน สภาพอากาศอันเลวร้ายในสหราชอาณาจักรครั้งนี้ ยังก่อความวุ่นวายด้านการสัญจร โดยถนนหลวงหลายสายและสะพานถูกปิด ด้านการบริการรถไฟหลายเส้นทางก็ถูกยกเลิก
อย่างไรก็ตาม คาร์ลี พาล์ว นักอุตุนิยมวิทยา คาดหมายว่าสภาพอากาศน่าจะดีขึ้นในวันพฤหัสบดี (13) แต่ช่วงสุดสัปดาห์นี้อาจมีฝนตกลงมาอีก
