สื่อญี่ปุ่นตีข่าวโครงการ “รับจำนำข้าว” กำลังหลอกหลอนรัฐบาลไทย

เจแปนไทม์ส - สื่อญี่ปุ่นรายงานชาวนาที่กำลังโกรธกริ้ว สต๊อกข้าวกองเท่าภูเขาและข้อกล่าวหาคอร์รัปชันต่างๆ นานาต่อโครงการรับจำนำข้าวกำลังหลอกหลอนรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ทั้งที่นโยบายนี้เคยผลักดันให้เธอก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย

ในรายงานพาดหัว Rice-buying misfires haunt government of Thailand สำนักข่าวเจแปนไทม์ส ระบุว่าโครงการอุดหนุนราคาข้าว ซึ่งซื้อข้าวจากชาวนาสูงกว่าตลาด 50 เปอร์เซ็นต์ เคยช่วยให้่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก้าวสู่อำนาจในปี 2011 แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นปัญหาที่ไร้ทางออกไปเสียแล้ว

พวกนักวิจารณ์บอกว่าโครงการนี้เต็มไปด้วยปัญหาคอร์รัปชัน สิ้นเปลืองงบประมาณ และฉุดประเทศร่วงจากบัลลังก์ผู้ส่งออกข้าวหมายเลข 1 ของโลก ขณะที่ตอนนี้ไทยมีสต๊อกข้าวตามโกดังต่างๆ มากถึง 18 ล้านตัน

รายงานของเจแปนไทม์ส บอกต่อไปว่าเวลานี้ชาวนาหลายพันคนเข้ามาชุมนุมในกรุงเทพฯ เรียกร้องเงินค่าข้าว หลังจากรัฐบาลไม่มีเงินจ่ายค่าข้าวตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ซ้ำเติมแรงกดดันแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ต้องเผชิญกับการประท้วงของฝ่ายต่อต้านที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือนแล้ว

ในวันอังคาร (11) คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณกลางเกือบ 22 ล้านดอลลาร์ (712ล้านบาท) จ่ายเงินคงค้างแก่ชาวนา 3,900 คน ในสัญญาณของข้อจำกัดที่ต้องเผชิญ อย่างไรก็ตามทางเจแปนไทม์ส ชี้ว่าการจ่ายเงินนี้ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งเสียก่อน พร้อมอ้างข้อมูลของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) คาดหมายว่ารัฐบาลไทยยังเป็นหนี้ชาวนาอยู่ราว 1 ล้านคนทั่วประเทศและคิดเป็นเงินกว่า 1.3 แสนล้านบาท

เจแปนไทม์สรายงานว่า รัฐบาลไทยหวังทวงคืนเงินที่จ่ายให้แก่ชาวนา ด้วยการกักเก็บสต๊อกข้าวเพื่อผลักให้ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม แผนนี้ได้ย้อนมาเข้าตัวเอง หลังจากชายผู้ลิตคู่แข่งทั้งอินเดียและเวียดนาม เพิ่มการส่งออกอย่างไม่คาดหมาย ส่งผลให้ไทย ประสบปัญหาในการหาผู้ซื้อ โดยทางสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย คาดหมายว่าในปีนี้ประเทศจะส่งออกข้าวได้เพียง 7.5 ล้านตัน ลดลงจากปี 2011 มากกว่าร้อยละ 30

“อุตสาหกรรมข้าวทั้งหมดของไทยแตกเป็นเสี่ยงๆ และชื่อเสียงที่เคยมีในตลาดโลกในฐานะผู้ส่งออกข้าวคุณภาพได้หมดไปแล้ว” เจแปนไทม์สอ้างคำพูดของ ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยกล่าว

หนังสือพิมพ์ดังแดนปลาดิบระบุว่า รัฐบาลไทยไม่เคยเปิดเผยตัวเลขที่แท้จริงของยอดการใช้จ่ายในโครงการนี้ แต่ทางสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ คาดหมายว่าโครงการดังกล่าวขาดทุนปีละ 1.5 แสนล้านถึง 2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นราวๆ ร้อยละ 6 ถึง 8 ของปีงบประมาณ

พรรคเพื่อไทยปฏฺิเสธว่ารัฐบาลไม่ได้ถังแตกและปกป้องโครงการนี้ว่าเป็นความพยายามยกระดับคนไทยให้พ้นจากความยากจน ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวโทษนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านที่ก่อความยุ่งเหยิงในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ว่าทำให้รัฐบาลรักษาการของเธอมีอำนาจอย่างจำกัดในการหาทุน “เราพยายามแก้ปัญหานี้เท่าที่จะทำได้ แต่พวกธนาคารไม่ยอมอนุมัติเงินกู้ สถานะทางการเงินและการคลังของรัฐบาลยังดีอยู่”

รายงานของเจแปนไทม์ส ปิดท้ายด้วยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ข้อตกลงขายข้าว 1 ล้านตันแก่รัฐวิสาหกิจจีนถูกยกเลิก หลังคณะกรรมการต่อต้านคอร์รัปชันของไทย แจ้งข้อหาทุจริตเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยหลายคนที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ขณะเดียวกันก็ดำเนินการไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฐานละเลยปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบโครงการจำข้าวข้าว ความเคลื่อนไหวที่อาจนำไปสู่การถอดเธอพ้นจากตำแหน่ง