ASTVผู้จัดการ - นักวิชาการทีดีอาร์ไอวิเคราะห์ตัวเลขเลือกตั้ง 2 ก.พ. ตบหน้าพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนน้อยกว่า No Vote-Vote No-บัตรเสีย เกือบ 6 ล้าน ส่วนคนรักพรรคเพื่อไทยเสียงหดกว่า 5 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ก.พ.) นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นส่วนตัว หลังจากคณะกรรมการเลือกตั้งได้เปิดเผยผลเบื้องต้นของการเลือกตั้งทั่วไป ปี 2557 เมื่อวันที่ 2 ก.พ. โดยนักวิชาการทีดีอาร์ไอผู้นี้ได้สรุปเป็นตารางคะแนนออกมาตามสัดส่วน พบว่า คะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยลดลงจากปี 2554 จาก 15 ล้านเสียง เหลือเพียง 10 ล้านเสียงเท่านั้น
ก่อนหน้านั้น ในวันที่ 5 ก.พ. นักวิชาการผู้นี้ระบุในเฟซบุ๊ก ว่า “ถ้าใช้ข้อมูลนี้ ร่วมกับสัดส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อ (Party list) ที่ พท. ได้ในปี 2554 (หัก ปชป.ออก) พรรค พท.จะได้คะแนนในปีนี้ 10.7 ล้านเสียง น้อยลงเกือบ 5 ล้านเสียง...ในขณะที่จำนวนผู้มีสิทธิ์เพิ่มขึ้นกว่าปี 54 เล็กน้อย”
ต่อมานายสมชัยโพสต์ด้วยว่า มาดูว่าคะแนนพรรคเพื่อไทยที่อาจได้จัดตั้งรัฐบาลเพราะ 'ชนะ' การเลือกตั้งนี้ มีความชอบธรรมเพียงใด “ผลการประมาณการคร่าวๆ โดยใช้ข้อมูลที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ (อ้างว่ามาจาก กกต.อีกที) แล้วปรับใช้รูปแบบการลงคะแนน party list ในปี 2554 จากนั้นคำนวณคะแนน 'กปปส.' ว่าหมายถึงคะแนน No Vote, Vote No และบัตรเสียที่ 'เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ (ใช้เกณฑ์ปี 54)' ผลคือ พรรค พท.ได้คะแนนน้อยกว่า กปปส.เกือบ 60% นั่นหมายถึงมี ปชช.ที่ไม่อยากให้พรรค พท.บริหารประเทศมากกว่าคนที่ต้องการให้บริหาร...เป็นเพียงการประมาณการครับ..ต้องรอคะแนนเป็นทางการ”
จากนั้นในวันนี้ (6 ก.พ.) นายสมชัยโพสต์ต่อว่า “สืบเนื่องจาก post เมื่อวานที่ประมาณการคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทยเทียบกับ 'กปปส.' (ที่หมายถึงคนไม่เอาระบอบทักษิณ แต่ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับแนวทางดำเนินการของ กปปส.) ลองทำตัวเลขอีกแง่มุมหนึ่ง แสดงถึง 'เจตนารมณ์' ทางการเมืองของการเลือกตั้งครั้งนี้ มุ่งไปที่ว่า (ก) ส.ส.ที่จะได้ไม่ว่าจากพรรคใดก็ตาม ได้รับความเห็นชอบให้บริหารประเทศหรือไม่ และ (ข) พอจะบอกถึงจุดยืน reform before election ได้เพียงใด
“ตัวเลขตามตารางข้างล่าง แสดงว่าจำนวนคนที่ไม่ต้องการให้ผู้สมัครคนใด/พรรคใดเลยบริหารประเทศ มีจำนวนมากกว่าคนที่ 'ยอม' หรือ 'ไว้ใจ' ให้บริหารได้ อันนี้รวมทุกพรรคเลยไม่ใช่เฉพาะพรรคเพื่อไทย คือต่อให้ตั้งรัฐบาลโดยไม่มีฝ่ายค้านเลยก็ไม่ชอบธรรมอยู่ดี
“ส่วนเรื่อง reform before election คนที่ไม่มาใช้สิทธิ (No Vote) ส่วนเพิ่ม อาจตั้งสมมติฐานว่าต้องการแนวนี้แน่นอนจึงไม่มาเลือกตั้งทั้งที่เคยมาครั้งที่แล้ว ส่วนคนมาเลือกตั้งแต่กาบัตรเสียหรือ Vote No (เพิ่มจากปกติ) ก็คงต้องการส่ง message ว่าอย่างน้อยที่สุดต้อง reform ควบคู่การเลือกตั้ง ไม่เห็นด้วยกับระบบเดิมจึงไม่เลือกใครเลย และต้องการเห็นการ reform อย่างจริงจังและรวดเร็ว มิฉะนั้นครั้งหน้าคงไปร่วม No Vote”