xs
xsm
sm
md
lg

สื่อนอกชี้เลื่อนหรือไม่เลื่อนเลือกตั้ง เวลาของ “ยิ่งลักษณ์” กำลังหมดลงแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลูมเบิร์กบิซิเนสวีก - สื่อต่างประเทศชี้เวลาของยิ่งลักษณ์ กำลังหมดลงแล้ว ไม่ว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์จะมีขึ้นหรือไม่ ระบุปัญหาคอร์รัปชันในโครงการรับจำนำข้าวคือฟางเส้นสุดท้ายที่ฉุดให้รัฐบาลพังครืนโดยกองทัพไม่จำเป็นต้องก่อรัฐประหารด้วยซ้ำ

ในบทความเรื่อง Time is Running Out for Thailand's Embattled Government ของบลูมเบิร์กบิสเนสวีค เกริ่นว่าในเวลานี้ประชาชนคนไทยต่างเฝ้ารอว่าศึกเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ตามกำหนดหรือไม่ หลังมีความเห็นต่างจาก 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้วยรัฐบาลรักษาการของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องการให้เดินหน้าตามแผน แต่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งอยากให้เลื่อนออกไป เนื่องจากมีการประท้วงต่อต้านอย่างกว้างขวาง

เมื่อวันศุกร์ (24) ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญของประเทศวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งสามารถเลื่อนออกไปได้ โดยเป็นอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกันของนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ หากเห็นว่าการเลือกตั้งตามกำหนดเดิมจะก่อความเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศ

อย่างไรก็ตาม บทความที่เขียนโดยนาย Bruce Einhorn บรรณาธิการภูมิภาคเอเชียของบลูมเบิร์กบิสเนสวีค ชี้ว่าเมื่อพิจารณาแล้วไม่ว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์หรือหลังจากนั้น วันเวลาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะนายกรัฐมตรีก็ลดลงเรื่อยๆ พร้อมอ้างความเห็นของ น.ส.พิมพ์ผกา นิจการุณ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่ระบุว่า “ทางตันทางการเมืองปัจจุบัน ท้ายที่สุดแล้วก็การพังทลายของรัฐบาลชุดนี้” ขณะที่วิกฤตลากยาวมานานหลายสัปดาห์ น.ส.พิมพ์ผกาคาดหมายว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม “มีความเป็นไปได้สูงมากที่ทหารจะเข้าแทรกแซงตามหลังคดีต่างๆ ในศาลที่จะนำมาสู่การล้มล้างรัฐบาล และมีโอกาสน้อยนิดที่รัฐบาลรักษาการจะได้กลับมาในฐานะรัฐบาลในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า”

นาย Bruce Einhorn ชี้ให้เห็นว่านั่นหมายความนโยบายประชานิยมต่างๆ อันเป็นเครื่องหมายการค้าของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะถูกเขี่ยให้พ้นทางด้่วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นโครงการรับจำนำข้่าวในราคาสูงกว่าตลาดที่ก่อปัญหามากมาย และทำให้ไทยที่เคยเป็นชาติผู้ส่งออกหมายเลข 1 ของโลก หล่นมาล้าหลัง เวียดนาม และอินเดีย เนื่องจากข้าวไทยมีราคาแพงกว่าคู่แข่ง จนเป็นผลให้ยอดขายดำดิ่ง ขณะที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ เผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า สต๊อกข้าวไทยที่จำนวนมหาศาลจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 17 ในปี 2014

บรรณาธิการของบลูมเบิร์กบิซิเนสวีก บอกต่อว่าโครงการนี้ทำให้รัฐบาลต้องขาดทุนมโหฬาร ขณะเดียวกันผู้มีสิทธิออกเสียงชาวชนบทจากภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือที่เคยให้การสนับสนุนพรรคการเมืองของตระกูลชินวัตร ก็อาจบ่ายหน้าหนีด้วย เนื่องจากเกษตรกรเหล่านั้นไม่พอใจที่รัฐบาลไม่จ่ายค่าข้าวตามเส้นตายที่ขีดไว้เมื่อวันที่ 15 มกราคม ขณะที่อีกฟากหนึ่งผู้ประท้วงต่อต้านยิ่งลักษณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลางในกรุงเทพฯ และผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จากภาคใต้ ก็จะได้แรงเสริมครั้งสำคัญ หากว่าชาวนาหันหลังให้นายกรัฐมนตรีหญิงรายนี้

ยิ่งไปกว่านั้น นาย Bruce Einhorn ยังมองด้วยว่าโครงการรับจำนำข้าวอันอื้อฉาวยังเป็นการมอบทางเลือกที่สะดวกแก่เหล่านายพลของไทย หากว่าพวกเขาต้องการจำกัดน้องสาวของทักษิณโดยไม่จำเป็นต้องก่อรัฐประหาร โดยบางทีพวกเขาแค่รอให้หน่วยงานต่อต้านคอร์รัปชันจัดการเธอก็พอ พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกำลังสืบสวนนายกรัฐมนตรีหญิงต่อข้อหาละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว นอกจากนี้ พวกเขาก็ยังดำเนินการสืบสวนสมาชิกสภา 308 คน ส่วนใหญ่มาจากพรรคเพื่อไทยและอาจห้ามพวกเขาจากการดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

อย่างไรก็ตาม ทางบทความของบลูมเบิร์กบิซิเนสวีก ระบุปิดท้าย ไม่ว่าจะผ่านการรัฐประหารของกองทัพหรือการตรวจสอบคอร์รัปชัน แต่จุดจบของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์คงไม่เกิดขึ้นเร็วเพียงพอที่จะปกป้องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีน ด้วยดูเหมือนว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาเยือนไทยลดลงอย่างมากเลยทีเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น