xs
xsm
sm
md
lg

สื่อนอกชี้ คนไทยต้องกลับมาต่อสู้บนท้องถนนต้าน “นิรโทษกรรม” เหตุเพราะสภา-นักการเมืองไทยล้มเหลวในการทำหน้าที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สื่อต่างประเทศชี้ การชุมนุมประท้วงทางการเมืองครั้งใหญ่ได้หวนคืนสู่ท้องถนนของไทยอีกครั้ง เนื่องจากบรรดาประชาชนผู้รักชาติต้องออกโรงเคลื่อนไหวทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติของตัวเอง หลังระบบการเมืองของไทยล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการทำหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น

ไซมอน มอนต์เลค คอลัมนิสต์ชื่อดังแห่งกองบรรณาธิการนิตยสาร “ฟอร์บส์” ในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เผยแพร่บทความชิ้นล่าสุดโดยระบุว่า ผู้ประท้วงชาวไทยได้กลับคืนสู่ท้องถนนอีกครั้ง เพื่อลุกขึ้นทำหน้าที่ในการปกป้อง “ความถูกต้องชอบธรรม” หลังจากเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ไม่สามารถพึ่งพาบรรดานักการเมืองในรัฐสภา ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยได้อีกต่อไป จากกรณีที่บรรดาส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรของไทยที่มีพรรคการเมืองของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิง กุมเสียงข้างมาก ดันทุรังลงมติผ่านความเห็นชอบกฎหมายนิรโทษกรรมด้วยกลไกรัฐสภา แม้จะถูกรุมต่อต้านจากทุกภาคส่วนในสังคมไทย

มอนต์เลควิเคราะห์ว่า เมื่อระบบรัฐสภาและสถาบันประชาธิปไตยในไทยอ่อนแอ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ประชาชนชาวไทยต้องกลับออกมาต่อสู้ตามท้องถนนอีกครั้งอย่างในขณะนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การประท้วงครั้งใหญ่เมื่อปี 2010 ที่จบลงด้วยเหตุนองเลือดจากการปราบปรามของกองทัพ

ในครั้งนี้ ที่มาของการชุมนุมประท้วงของประชาชนมาจากการที่รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และสมาชิกรัฐสภาในสังกัด เดินหน้าผลักดันกฎหมายแห่งความขัดแย้งเพื่อล้างความผิดให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จากความขัดแย้งทางการเมืองของไทย ซึ่งหนึ่งในบุคคลที่ถูกมองว่าจะได้รับประโยชน์เต็มๆจากการออกกฏหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นพี่ชายของเธอ ซึ่งถูกกองทัพโค่นอำนาจไปเมื่อปี 2006 และถูกตัดสินว่าทุจริต-ใช้อำนาจโดยมิชอบเมื่อปี 2008 ซึ่งความมุ่งมั่นในการล้างความผิดให้กับทักษิณนี้เอง ที่กลายเป็นการจุดชนวนให้ประชาชนเรือนหมื่นออกมารวมตัวกันกลางกรุงเทพฯเมื่อวันจันทร์ (4)

บทวิเคราะห์ของมอนต์เลคระบุว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรบ่งชี้ถึงความเปราะบางในระบบรัฐสภาของไทย ที่เริ่มถูกตั้งคำถามมากขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่า การได้ครองเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่าของพรรคการเมืองฝ่ายของทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ อาจเป็นเพียงผลพวงจากความอ่อนแอของประชาธิปไตยในไทยที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีความเข้าใจที่ถ่องแท้ และถูกใช้เป็นเพียงเครื่องมือในการหย่อนบัตรเลือกตั้งเท่านั้น

รายงานของฟอร์บส์ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่พรรคการเมืองของยิ่งลักษณ์อาจกำลังเตรียมจัดการเลือกตั้งใหม่ในช่วงต้นปีหน้า หากต้องเผชิญกับทางตันทางการเมืองจากผลพวงของการเดินหน้าผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมแบบสุดซอยครั้งนี้ และเมื่อถึงตอนนั้น บรรดาฝ่ายตรงข้ามก็คงต้องยอมรับว่า มีโอกาสสูงที่พรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลอยู่ในเวลานี้ จะคว้าชัยชนะและกลับมาครองอำนาจอีกดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ ปี 2001 เป็นต้นมา

ด้านสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีหญิงของไทย พยายามร้องขอความเข้าใจจากสาธารณชนต่อการเดินหน้าผลักดันกฏหมายนิรโทษกรรม ที่จุดชนวนให้เกิดการประท้วงตามท้องถนนของประชาชนนับหมื่นคน โดยเธอยืนกรานจะเคารพการตัดสินใจของวุฒิสภาที่คาดว่าจะมีการอภิปรายถึงร่างกฏหมายอื้อฉาวนี้ในสัปดาห์หน้า

รายงานของบีบีซีระบุว่า นายกรัฐมนตรีหญิงของไทยพยายามเน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้อภัยซึ่งกันและกัน พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลของเธอได้ให้ความสำคัญกับการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งภายในประเทศมาตลอดนับตั้งแต่ที่ก้าวขึ้นครองอำนาจ โดยชี้ว่า การนิรโทษกรรมนั้นไม่ได้ต้องการให้คนไทยลืมบทเรียนจากความเจ็บปวดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ต้องการให้คนไทยตระหนักรู้เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤตซ้ำรอยขึ้นอีก




กำลังโหลดความคิดเห็น