รอยเตอร์ - วิกฤตพายุน้ำแข็งและสภาพอากาศหนาวติดลบที่ถือเป็น 1 ในครั้งรุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์มุ่งหน้าสู่รัฐทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ได้คร่าชิวิตชาวอเมริกันไปแล้วอย่างน้อย 6 คนเมื่อวานนี้(11) ในขณะที่ศูนย์ตรวจสภาพอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NWS ได้ออกเตือนว่า น้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นหลังหิมะตก และหิมะอาจเป็นอุปสรรคในการเดินทาง และทำให้เกิดไฟฟ้าดับในวงกว้างในไม่กี่วันข้างหน้านี้
วิกฤตพายุน้ำแข็งและสภาพอากาศหนาวจัดนี้อาจถือเป็นวิกฤตครั้งร้ายแรงในหน้าประวัติศาสตร์ หน่วยงานตรวจสภาพอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NWS สาขาเมืองพีชทรี ซิตี รัฐจอร์เจียได้ให้ความเห็นในกรณีพายุฤดูหนาวล่าสุดที่เข้ามาในเขตทางตอนใต้ของสหรัฐฯ
ซึ่งคาดกันว่าสภาพเลวร้ายจะเกิดขึ้นได้ภายในเพียงชั่วข้ามคืน ที่น้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นหลังจากหิมะตกนั้นสูงถึง 1 นิ้วปกคลุมอยู่ทั่วรัฐจอร์เจียและทางตอนกลางของรัฐเซาท์แคโรไลนา
โดยพบว่าหิมะที่มีความสูง 2- 6นิ้วอยู่ในทางเหนือของรัฐจอร์เจียในวันอังคาร(11) และคาดว่าจะมีหิมะสูงขนาด 5-9 นิ้วก่อนเช้าวันพฤหัสบดี(13)ที่จะถึงนี้ แดน ดาร์บี นักอุตุนิยมวิทยาแห่ง NWS กล่าว
แต่กระนั้นดาร์บียังย้ำว่า “น้ำแข็งเป็นสิ่งที่ต้องกังวลถึงมากกว่า ที่คาดกันว่าจะมีน้ำแข็งก่อตัวสูงราว 0.6ซม.-2 ซม.ปกคลุมทั่วบริเวณที่รวมถึงย่านตัวเมืองแอตแลนตา
ซึ่งวิกฤตพายุน้ำแข็งล่าครั้งร้ายแรงล่าสุดในภูมิภาคนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2000 ที่มีน้ำแข็งสูงราวครึ่งนิ้วได้ทำให้ประชาชนชาวอเมริกันจำนวนมากกว่า 350,000 คนต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ ดาร์บีกล่าว
“นี่เรากำลังพูดถึงบริเวณวงกว้างกว่ามากที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ และมีน้ำแข็งเป็นจำนวนมากกว่าในอดีตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพราะพายุหิมะนี้” ดาร์บีกล่าวต่อ
ด้านประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้เซ็นประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐจอร์เจีย และผู้ว่าการรัฐแอละแบมา รัฐนอร์แคโรไรนา รัฐเซาท์แคโรไลนา และรัฐมิสซิสซิปปี ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางสภาพอากาศ นอกจากนี้ผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย นาธาน ดีล ได้ออกคำสั่งปิดสถานที่ราชการของรัฐในวันพุธ(12)
นอกจากนี้พายุหิมะยังทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตทางถนนถึง 2 รายในรัฐมิสซิสซิปปี และอีก 3 รายในทางเหนือของรัฐเท็กซัส อ้างจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่น และหน่วยดับเพลิงของดัลสัสได้รุดไปที่เกิดเหตุเนื่องจากอุบัติเหตุเพราะสภาพถนนลื่นทำให้รถคันที่เกิดอุบัติเหตุได้วิ่งไถลไปชนกับรถอีกคันที่จอดอยู่ และรถที่ลื่นไถลได้ตกสะพานไฮเวย์ยกระดับลงไป ซึ่งเป็นผลให้คนขับได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ซึ่งเจ้าหน้าที่แอตแลนตาได้วางแผนเตรียมพร้อมรับมืออย่างรวดเร็วต่อสภาพอากาศที่กำลังเลวร้ายหลังจากที่ได้ถูกวิพากษ์อย่างหนักถึงการไม่วางแผนอย่างเหมาะสมเพื่อรับมือวิกฤตพายุหิมะที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งพายุหิมะก่อนหน้านั้นได้ทำให้แอตแลนตาเป็นอัมพาต รวมไปถึงการสัญจรทางถนน และทำให้นักเรียนอย่างน้อย 11,000 คน ต้องอาศัยตลอดทั้งคืนในโรงเรียนของพวกเขา
ในวันอังคาร(11) โรงเรียนหลายร้อยแห่งและสำนักงานต่างๆที่ตั้งอยู่ตั้งแต่รัฐเท็กซัสไปจนถึงรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้ปิดตัวลง และคาดว่าจะมีการปิดทำการมากขึ้นในวันพุธ(12)
โดยพบว่าโรงเรียนจำนวนหลายร้อยแห่ง และสำนักงานธุรกิจที่ตั้งอยู่ในเท็กซัสทางเหนือ และแถบกลางของเท็กซัสได้ปิดลงหรือเลื่อนการเปิดให้ช้าออกไปเมื่อวานนี้(11) ซึ่งรวมถึงจำนวนมากกว่า 200 แห่งที่ตั้งอยู่ในดัลลัส-ฟอร์ต เวิร์ตที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศหนาวจัดชั่วข้ามคืน
และพบว่ามีเที่ยวบินของสายการบินสหรัฐฯจำนวนมากกว่า 1,300 เที่ยวบินได้ประกาศยกเลิก และมีอีก 3,300 เที่ยวบินที่ต้องล่าช้าออกไปในวันอังคาร(11) อ้างจากเว็บไซต์ FlightAware.com
“นี่ไม่ใช่พายุหิมะที่เราเผชิญเมื่อ2 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น ที่เราต่างสนุกสนานในการเล่นปาหิมะ และปั้นมนุษย์หิมะ แต่นี่เป็นพายุน้ำแข็ง” ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา นิกกี ฮาเลย์ กล่าว
เจ้าหน้าที่แผนกการทาง หรือ DOT ของรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้ใช้เกลือเกือบ 7.6 ล้านลิตรโปรยลงบนถนนทางหลวงล่วงหน้าเพื่อรับมือพายุ สำนักงานว่าการรัฐนอร์ทแคโรไลนาเผย
