xs
xsm
sm
md
lg

ยูเอ็นเผยจำนวนพลเรือนเหยื่อสงครามอัฟกันเพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - จำนวนของพลเรือนที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บในอัฟกานิสถาน เพิ่มสูงขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ในปี 2013 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในวันเสาร์ (8) ขณะที่กองกำลังขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เตรียมถอนตัวจากแผ่นดินอัฟกันในสิ้นปีนี้ หลังเข้ามาทำสงครามกวาดล้างกลุ่มหัวรุนแรงนานนับสิบปี

ข้อมูลล่าสุดของยูเอ็นระบุ ในปีที่แล้วพลเรือนอัฟกัน 2,959 รายเสียชีวิต ขณะที่อีก 5,656 คนได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นยอดการสูญเสียที่เพิ่มขึ้นจากเมื่อปี 2012 ราว 14 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกสังหารจากการปะทะกันระหว่างกองกำลังความมั่นคงรัฐบาลอัฟกานิสถานกับกลุ่มหัวรุนแรง ขณะเดียวกัน ในปีที่แล้วจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นสตรี และเด็กได้เพิ่มจำนวนสูงขึ้น 36 เปอร์เซ็นต์ และ 34 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ

และถึงแม้ยอดผู้เสียชีวิตที่ 2,959 รายในปี 2013 นั้น เกือบเทียบเท่ากับสถิติสูงสุดที่ 3,133 รายเมื่อปี 2011 แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีด้วยอากาศยานรบไร้นักบิน หรือ “โดรน” ของสหรัฐฯ ได้ลดจำนวนลงอย่างสำคัญในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจลดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ และภาคพื้นดินในอัฟกานิสถาน และปูทางไปสู่การเตรียมถอนกำลังทหารสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรนาโต้ที่ยังเหลืออยู่มากกว่า 50,000 คนออกภายในสิ้นปีนี้

ด้าน ยาน คูบิส อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสโลวะเกีย ซึ่งปัจจุบันรับหน้าที่เป็นทูตพิเศษด้านอัฟกานิสถานของยูเอ็นออกมาเปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ความขัดแย้งและสงครามในอัฟกานิสถานได้คร่าชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ไปแล้ว 14,064 ราย พร้อมเผยว่า ราว 74 เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิต และบาดเจ็บของพลเรือนอัฟกันนั้นเกิดจากการโจมตีของพวกนักรบตอลิบาน และกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงที่เกี่ยวข้อง

ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ และอัฟกานิสถานยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงด้านความมั่นคงต่อกันเพื่อเปิดทางให้สหรัฐฯ สามารถคงกำลังทหารของตนเอาไว้ในอัฟกานิสถานต่อไปราว 5,000 ถึง 10,000 คน หลังจากสิ้นปีนี้ เพื่อทำหน้าที่เป็น “พี่เลี้ยง” ให้แก่กองกำลังความมั่นคงอัฟกัน

โดยล่าสุด ประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ ผู้นำอัฟกานิสถานระบุว่า เขาจะยอมลงนามในข้อตกลงความมั่นคงทวิภาคีดังกล่าวก็ต่อเมื่อสหรัฐฯ ยุติปฏิบัติการทางทหาร และดึงกลุ่มตอลิบานเข้าสู่โต๊ะเจรจาให้ได้เสียก่อน

กำลังโหลดความคิดเห็น