xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอิตาลีตัดสิน “อแมนดา น็อกซ์” ผิดจริงในคดี “ฆ่าปาดคอ” นศ.อังกฤษเมื่อปี 2007

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อแมนดา น็อกซ์ อดีตนักศึกษาชาวอเมริกันซึ่งถูกศาลอิตาลีพิพากษาให้มีความผิดจริงในคดีฆาตกรรมเพื่อนนักศึกษาชาวอังกฤษ เมื่อปี 2007
เอเจนซีส์ - ศาลอิตาลีตัดสินให้ อแมนดา น็อกซ์ นักศึกษาสาวชาวอเมริกัน มีความผิดฐานฆาตกรรมเพื่อนนักศึกษาชาวอังกฤษระหว่างศึกษาอยู่ในอิตาลีเมื่อปี 2007 และมีคำพิพากษาลับหลังจำเลยให้จำคุก 28 ปีกับอีก 6 เดือน วานนี้ (30) ขณะที่เจ้าตัวโอดศาลตัดสิน “ไม่เป็นธรรม”

หัวหน้าผู้พิพากษา อเลซซานโดร เนนชินี แห่งศาลเมืองฟลอเรนซ์ ได้อ่านคำพิพากษาท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบงันในห้องพิจารณาคดี ขณะที่ทีมทนายของน็อกซ์ยืนยันว่าจะอุทธรณ์คำตัดสินอย่างแน่นอน

ด้าน น็อกซ์ ซึ่งเดินทางกลับสหรัฐฯ ทันทีหลังศาลเมืองเปรูจาตัดสินให้เธอพ้นผิดในปี 2011 ได้มีถ้อยแถลงจากบ้านของเธอที่เมืองซีแอตเติลว่า “ดิฉันรู้สึกหวาดกลัวและเสียใจที่ศาลตัดสินลงโทษดิฉันอย่างไม่เป็นธรรม ดิฉันเคยคาดหวังว่าระบบศาลอิตาลีจะให้ความยุติธรรมได้มากกว่านี้ ในเมื่อก็เคยพิสูจน์มาแล้วว่าดิฉันบริสุทธิ์จริง”

“เรื่องนี้เริ่มจะเลยเถิดไปกันใหญ่แล้ว” น็อกซ์ วัย 26 ปี ซึ่งจบปริญญาตรีด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ระบุ

หลังใช้เวลาพิจารณาอยู่นานถึง 12 ชั่วโมง ผู้พิพากษา 2 ท่านพร้อมคณะลูกขุนอีก 8 คนก็ประกาศให้ ราฟาเอล โซลเลซิโต อดีตแฟนหนุ่มชาวอิตาลีของน็อกซ์ มีความผิดฐานร่วมกันฆาตกรรม และให้ลงโทษจำคุก 25 ปี

โซลเลซิโต ได้เดินทางไปฟังการพิจารณาคดีที่ศาลเมื่อวานนี้ (30) ด้วย ทว่าไม่อยู่ฟังขณะที่ศาลอ่านคำตัดสิน ซึ่งหลังจากนี้เขาจะถูกระงับหนังสือเดินทาง เพื่อป้องกันไม่ให้หนีออกนอกประเทศก่อนที่จะมีการยื่นอุทธรณ์ขั้นสุดท้าย

ศพของ เมเรดิธ เคอร์เชอร์ นักศึกษาชาวอังกฤษวัย 21 ปี ถูกพบในสภาพเกือบเปลือยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 2007 ภายในห้องนอนบ้านพักที่เธออยู่ร่วมกับ น็อกซ์ ที่เมืองเปรูจา ศพของเธอนอนจมกองเลือด ตามลำตัวมีรอยฟกช้ำและบาดแผลจากมีดอยู่หลายแห่ง รวมถึงร่องรอยการถูกทำร้ายทางเพศ
ราฟาเอล โซลเลซิโต (ซ้าย), อแมนดา น็อกซ์ (กลาง) และเมเรดิธ เคอร์เชอร์
ไลอัล เคอร์เชอร์ และ สเตฟานี เคอร์เชอร์ พี่ชายและพี่สาวของผู้ตาย นั่งฟังคำพิพากษาของศาลด้วยอาการสงบ ซึ่งหลังจากนั้น ไลอัล ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่ใช่เวลาแห่งการฉลอง” แต่ครอบครัวของตนก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของอิตาลีมาโดยตลอด

“การสูญเสียบุคคลที่เรารักก็เลวร้ายพออยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อเห็นลักษณะการตายของเธอ แต่นั่นยังไม่รวมความจริงที่ว่าคดีนี้ยืดเยื้อมานานถึง 6 ปีกับอีก 3 เดือน” ไลอัลระบุ

น็อกซ์ และ โซลเลซิโต ถูกศาลอิตาลีตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมเมื่อปี 2009 ทว่า หลังยื่นอุทธรณ์ ศาลเมืองเปรูจาก็มีคำพิพากษาให้พวกเขาทั้งสองพ้นผิดในปี 2011

เมื่อปีที่แล้ว ศาลสูงสุดอิตาลีมีคำสั่งให้รื้อคดีขึ้นใหม่ ซึ่งนำมาสู่การตัดสินลงโทษบุคคลทั้งสองเมื่อวานนี้ (30)

ทั้งนี้ การขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนจากสหรัฐฯ จะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อมีคำพิพากษาสุดท้ายจากศาลสูงสุดอิตาลี ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน หรืออาจจะเป็นปีๆ

ชาวอเมริกันที่เห็นใจ น็อกซ์ เชื่อว่ารัฐบาลวอชิงตันควรปกป้องเธอจากการถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมอิตาลีซึ่งอนุญาตให้คณะอัยการอุทธรณ์คำตัดสินของศาลได้นั้น ขัดต่อหลักกฎหมายสหรัฐฯ ที่ห้ามพิจารณาคดีซ้ำสองในความผิดเดิม (double jeopardy)
กำลังโหลดความคิดเห็น