เอเอฟพี - เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยขยายตัวร้อยละ 3.2 ในช่วงไตรมาส 4 แม้ต้องประสบวิกฤตปิดหน่วยงานภาครัฐบาลส่วนในเดือนตุลาคม กระทรวงพาณิชย์อเมริกาเผยแพร่ข้อมูลในวันพฤหัสบดี (30) สะท้อนถึงมุมของเฟด ที่นำมาซึ่งการปรับลด QE อีกรอบเดือนกุมภาพันธ์นี้
การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศได้ปัจจัยเสริมจากการส่งออกและการใช้จ่ายผู้บริโภค อันเป็น 2 ตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจอเมริกา ขณะที่อัตราการเติบโตช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2013 ที่ระดับ 3.2 ถือว่ามากกว่านักวิเคราะห์คาดหมายไว้ที่ 3.0 หลังจากช่วงไตรมาส 3 เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก็เติบโตร้อยละ 4.1
อัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงในช่วงไตรมาส 4 ส่วนใหญ่แล้วสะท้อนถึงการลงทุนสินค้าคงคลังที่ลดลง การปรับลดการใช้จ่ายภาครัฐ การชะลอตัวด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และภาธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐฯนช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ก็ได้แรงขับเคลื่อนจากตัวเลขใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างร่าเริงที่ร้อยละ 3.3 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ในช่วงไตรมาส 3 ส่วนปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการ พุ่งทะยานขึ้นถึงร้อยละ 11.4 เหนือกว่าไตรมาส 3 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.9 ขณะที่การส่งออกก็เติบโตมากกว่ายอดนำเข้า
ทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยอมรับว่า ไม่สามารถคำนวณผลกระทบทั้งหมดของเหตุชัตดาวน์หน่วยงานภาครัฐบางส่วนระหว่างวันที่ 1 ถึง 16 ตุลาคมได้ แต่ก็คาดหมายว่าเหตุลดชั่วโมงการทำงานของลูกจ้างรัฐบาลกลาง น่าจะกัดเซาะจีดีพีราวร้อยละ 0.3 ทั้งนี้ โดยรวมทั้งปี 2013 เศรษฐกิจอเมริกาขยายตัวร้อยละ 1.9 หลังจากเมื่อปี 2012 ขยายตัวร้อยละ 2.8
การเปิดเผยตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกินคาดหมายนี้ มีออกมา 1 วัน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพิ่งแถลงลดระดับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการผ่อนคลายเชิงปริมาณอีกรอบ อ้างถึงพบเห็นความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง
เฟด ประกาศลดขนาดโครงการซื้อคืนพันธบัตรลงมาจาก 75,000 ล้านดอลลาร์ เหลือเดือนละ 65,000 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้ ขณะเดียวกันก็คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นชั่วข้ามคืน “เฟด ฟันด์ เรต” เอาไว้ที่ 0-0.25% ตามเดิม