เอพี - สำนักพระราชวังอังกฤษต้องหาช่องทางการลงทุนเพิ่มเพื่อเพิ่มรายได้ และต้องตัดลดจำนวนเจ้าหน้าที่ลง หลังจากเงินทุนสำรองสำหรับราชวงศ์นั้นลดเหลือแค่ 1.6 ล้านดอลลาร์ อ้างจากรายงานสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (28)
รายงานของสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษเกี่ยวกับสถานภาพการใช้จ่ายของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษเมื่อวานนี้ (28) ได้เปิดเผยข้อมูลว่า เงินทุนสำรองของราชวงศ์นั้นมีจำนวนลดลงเหลือ 1.6 ล้านดอลลาร์สุดท้าย
โดย ส.ส.ในคณะกรรมาธิการตรวจสอบสาธารณะของสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ ได้กระตุ้นให้ทางสำนักพระราชวังอังกฤษใช้วิธีคิดแบบธุรกิจสมัยใหม่เพื่อแก้ปัญหา พร้อมทั้งเสนอแนะให้เปิดพระราชวังบักกิงแฮมให้สำหรับนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมบ่อยครั้งขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้
โดยคณะกรรมาธิการเปิดเผยว่า ทางสำนักราชวังอังกฤษต้องหารายได้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมพระราชวังที่เก่าแก่และทรุดโทรม โดยพบว่าพระราชวังในอังกฤษอย่างน้อย 39% นั้นอยู่ในสภาพที่ต้องการปรับปรุงอย่างเร่งด่วน
“ระบบหม้อไอน้ำเพื่อทำความร้อนของพระราชวังบักกิงแฮมนั้นมีอายุการใช้งานถึง 60 ปีแล้ว” ประธานกรรมาธิการ มาร์กาเรต ฮอดจ์ เผยกับบีบีซี “สำนักพระราชวังอังกฤษต้องมีแผนการที่ดีกว่านี้ในมาตรการบำรุงรักษา”
ซึ่งฮอดจ์ได้ใช้คำที่คุ้นเคยในหมู่ชาวอังกฤษที่ต้องทนกับนโยบายรัดเข็มขัดมานานถึง 5 ปีว่า “ทางสำนักพระราชวังอังกฤษต้องทำมากกว่าเดิมในสภาพจำกัด”
นอกจากนี้รายงานยังได้ชี้ว่า จำนวนเจ้าหน้าที่ของพระราชวังยังคงมีจำนวนมากกว่า 430 คน ตลอด 7 ปีล่าสุดนี้ ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาเดียวกันที่เจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากของอังกฤษราวหลายพันคนต้องถูกเลิกจ้าง และค่าใช้จ่ายสาธารณะของแผ่นดินต้องถูกตัดลง
ฮอดจ์ ซึ่งเป็น ส.ส.พรรคแรงงานอังกฤษได้กล่าวต่อว่า “พระราชวังบักกิงแฮมนั้นเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมแค่ 78 วันในรอบปีเท่านั้น และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้เพียง 500,000 คน” โดยเธอเสนอแนะให้ทางสำนักราชวังหาทางเพิ่มยอดจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าชมเพื่อเป็นช่องทางในการเพิ่มรายได้
“ดิฉันคิดว่าทางสำนักราชวังอังกฤษควรใช้วิธีคิดแบบธุรกิจแทนความคิดอนุรักษ์แบบดังเดิมเพื่อเพิ่มรายได้นั้นจะเป็นการรับใช้สมเด็จพระราชินีได้ดีมากกว่า” ฮอดจ์กล่าว
สมเด็จพระราชินีอังกฤษทรงได้รับเงินประจำปีราว 51 ล้านดอลลาร์จากภาษีประชาชนในช่วงปี 2012-2013 แต่ฮอดจ์ยืนยันว่า “ทางราชวงศ์อังกฤษนั้นไม่ได้รับการดูแลที่ดีจากสำนักพระราชวังอังกฤษและกรมธนารักษ์อังกฤษ” ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมการใช้จ่ายของเงินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยรายงานยืนยันว่า สาเหตุของการใช้เงินเกินขอบเขต เป็นผลให้จำนวนเงินสำรองฉุกเฉินของพระราชวงศ์ได้ลดลงจาก 5.47 ล้านดอลลาร์ เหลือแค่ 1.6 ล้านดอลลาร์ ในปี 2012-2013 ถือว่าเป็นการลดลงต่ำสุดเท่าที่เคยมีมาซึ่งสร้างความวิตกให้เกิดขึ้น “ทางสำนักพระราชวังอังกฤษอาจจะไม่มีเงินมากพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายในเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงได้” ฮอดจ์เผย
อย่างไรก็ตาม ทางพระราชวังบักกิงแฮมได้แถลงโต้ว่า ได้เพิ่มรายได้เกือบ 8.29 ล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2007-2013 และยังคงทำอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทางพระราชวังบักกิงแฮมยังแถลงเสริมว่า ได้มีนโยบายซ่อมแซมพระราชวังในส่วนที่สำคัญ และเมื่อเร็วๆ นี้ทางพระราชวังได้กำจัดแร่ใยหินออกจากห้องใต้ดินของพระราชวังบักกิงแฮม