เอเอฟพี - กองทัพสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีด้วยจรวดในโซมาเลียวานนี้ (26 ม.ค.) เพื่อมุ่งสังหารชายคนหนึ่งซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นผู้นำกลุ่มหัวรุนแรงเชบับ เหล่าเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผย
เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งระบุว่า กองทัพได้ใช้อากาศยานไร้นักบิน (โดรน) ยิงจรวดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (26) แต่ปฏิเสธที่จะระบุอัตลักษณ์ของผู้ต้องสงสัย หรือยืนยันว่าการโจมตีครั้งนี้ประสบความสำเร็จหรือไม่
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ “ตามรอยชายคนนี้มานานหลายปีแล้ว” เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวกับเอเอฟพีโดยไม่ขอเปิดเผยนาม
เจ้าหน้าที่อเมริกันคนที่สองชี้ว่า ปฏิบัติการจู่โจมในบาราวี เมืองท่าทางตะวันออกเฉียงใต้ของโซมาเลีย “เป็นการมุ่งโจมตีผู้บัญชาการอาวุโสของกลุ่มเชบับ”
เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวเสริมว่า “สหรัฐฯ กำลังประเมินผลของปฏิบัติการครั้งนี้” เพื่อตรวจสอบว่าผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตแล้วหรือยัง
ปฏิบัติการจู่โจมของสหรัฐฯ ครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังกลุ่มติดอาวุธเชบับ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ออกมาปลุกกระตุ้นให้มีการก่อเหตุโจมตีกองกำลังต่างชาติ ภายหลังที่ศัตรูตัวฉกาจอย่างเอธิโอเปียได้เข้าร่วมกับกองกำลังสหภาพแอฟริกาเพื่อต่อสู้กับพวกหัวรุนแรง
กบฏเชบับ ซึ่งมีแนวทางแข็งกร้าวได้เข้ายึดครองพื้นที่ชนบทอันกว้างใหญ่ ทางตอนใต้ของโซมาเลีย และแม้ว่าจะถูกกองกำลัง AMISOM ที่มีองค์การสหประชาชาติหนุนหลังขับไล่ออกจากเมืองต่างๆ แต่หน่วยสู้รบแบบกองโจรเหล่านี้ก็ยังคงก่อเหตุโจมตีอย่างรุนแรงในกรุงโมกาดิชู ของโซมาเลียอยู่เรื่อยมา
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ส่งที่ปรึกษาของกองทัพอเมริกันจำนวนหนึ่งไปที่โซมาเลียเพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กองกำลังสหภาพแอฟริกา (African Union) ในการสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงที่นั่น
การเคลื่อนพลครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ ส่งทหารเจ้าประจำการในดินแดนที่เกิดเหตุไม่สงบแห่งนี้นับตั้งแต่ปี 1993 เมื่อเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก 2 ลำถูกยิงตก ทำให้มีชาวอเมริกัน 18 คนเสียชีวิตในปฏิบัติการหายนะ
ทางด้าน อาลี โมฮามุด รอเญ โฆษกกลุ่มเชบับเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บรรดาผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มติดเชบับ เป็นต้นว่า อะห์เหม็ด อับดี โกดาเน ซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกลุ่มกบฏได้ร่วมหารือกัน หลังทราบว่าเอธิโอเปียได้เข้าร่วมกับกองกำลัง AMISOM อย่างเป็นทางการ
เมื่อปี 2006 กองทหารเอธิโอเปียได้เคลื่อนพลเข้าโซมาเลียเพื่อปฏิบัติภารกิจจู่โจมที่มีสหรัฐฯ ผลักดัน ทว่า 3 ปีต่อมาก็ต้องถอนกำลังทหารออกมา เนื่องจากพวกเขาเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่ง หลังจากนั้นกองกำลังก็กลับเข้าประจำการไปในโซมาเลียอีกครั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2011 และยังคงปฏิบัติหน้าที่จนถึงบัดนี้