เอเอฟพี - กลุ่มคนร้าย 4 รายที่บุกยึดห้างสรรพสินค้าเวสต์เกตในเมืองหลวงของเคนยา และสังหารประชาชนไปอย่างน้อย 67 ศพเมื่อเดือนกันยายน อาจหลบหนีลอยนวลไปได้ เนื่องจากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่หละหลวม รายงานจากตำรวจนิวยอร์กเผยวานนี้ (10)
ประชาชนบริสุทธิ์จาก 13 ประเทศ อายุตั้งแต่ 7-78 ปี ต้องสังเวยชีวิตแก่คมกระสุนของผู้ก่อการร้ายที่โจมตีห้างเวสต์เกตในกรุงไนโรบีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยกลุ่มอัล-เชบับในโซมาเลียได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้
สื่อหลายสำนักตั้งข้อสังเกตว่า คนร้ายน่าจะฉวยโอกาสหลบหนีไปขณะที่สถานการณ์ชุลมุน แต่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเคนยายืนยันว่าพวกเขาถูกหน่วยคอมมานโดสังหารแล้ว
รายงานของตำรวจนิวยอร์กระบุว่า กล้องวงจรปิดของห้างเวสต์เกตจับภาพคนร้ายไว้ได้เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเวลา 00.54 น.ของวันที่ 22 กันยายน หรือประมาณ 12 ชั่วโมงหลังเหตุกราดยิงเริ่มขึ้น
รัฐบาลเคนยาใช้เวลาเกือบ 4 วันจึงประกาศว่าเหตุการณ์สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่ง 1 วันก่อนหน้านั้น กองกำลังของเคนยาได้ทำให้เกิดเพลิงไหม้จนอาคารพังถล่มลงมาบางส่วน
“ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ากลุ่มก่อการร้ายถูกสังหารหรือว่าหลบหนีออกจากห้างสรรพสินค้าไปได้ ซึ่งเหตุผลสำคัญก็คือ ความล้มเหลวในการปิดกั้นพื้นที่เข้าออกรอบห้างสรรพสินค้า”
รายงานจากตำรวจสหรัฐฯ ระบุ โดยอาศัยข้อมูลที่ได้จากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเอง ประกอบกับแหล่งข่าวอื่นๆที่ไม่เป็นความลับ
ตำรวจสากลได้เข้าไปช่วยทางการเคนยาตรวจพิสูจน์ศพบุคคลทั้ง 4 ซึ่งคาดว่าจะเป็นกลุ่มคนร้าย แต่จนบัดนี้ยังไม่มีการเปิดเผยผลชันสูตร
รายงานฉบับนี้ยังชี้ให้เห็นถึงการประสานงานที่ไร้ประสิทธิภาพระหว่างตำรวจและทหารเคนยา ซึ่งเป็นเหตุให้ทหารเผลอยิงตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และทำให้ผู้บัญชาการตำรวจนายหนึ่งบาดเจ็บด้วย
กลุ่มอัล-เชบับอ้างว่า การโจมตีดังกล่าวก็เพื่อเตือนให้รัฐบาลเคนยาถอนทหารออกจากตอนใต้ของโซมาเลีย หลังจากที่เคนยาส่งทหารเข้าร่วมกับกองกำลังสหภาพแอฟริกาเพื่อกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายในโซมาเลีย
เจ้าหน้าที่ตะวันตกประเมินยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่ห้างเวสต์เกตไว้ราวๆ 94 คน ซึ่งเหยื่อบางรายอาจจะยังถูกฝังอยู่ใต้ซากอาคารบางส่วนที่พังถล่มลงมา
