“รพ.เทกซัส” ยอมถอด “เครื่องช่วยหายใจ” ออกจากคนไข้สมองตายที่กำลังตั้งท้อง

เอเจนซีส์ - มาร์ลิซ มูโนซ วัย 33 ปี คนไข้สมองตายที่กำลังตั้งครรภ์อายุ 23 สัปดาห์ได้รับการถอดเครื่องช่วยหายใจออกเมื่อวานนี้ (26) หลังจากการต่อสู้คดียืดเยื้อในศาลระหว่างครอบครัวของมูโนซที่ประสงค์ให้เธอจากไปอย่าสงบ ในขณะที่โรงพยาบาลพีเตอร์ จอห์น สมิตท์ ในรัฐเทกซัสอ้างว่ามีหน้าที่ต้องคุ้มครองทารกที่อยู่ในครรภ์ตามกฎหมายรัฐเทกซัสถึงแม้จะขัดความประสงค์ของครอบครัวคนไข้

ในวันศุกร์ (24) ผู้พิพากษา อาร์.เอช วอลเลซ ได้สั่งให้โรงพยาบาลพีเตอร์ จอห์น สมิตท์ ในรัฐเท็กซัสถอดเครื่องช่วยหายใจออกจากมาร์ลิซ มูโนซ วัย 33 ปี คนไข้สมองตายที่กำลังตั้งครรภ์อายุ 23 สัปดาห์ ก่อนเวลา 17.00 น. ในวันนี้ (27) หลังจากมีความเห็นว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ดึงดันที่จะทำตามกฎหมายรัฐเทกซัสจนไม่ฟังความปราถนาครอบครัวของคนไข้

เจ.อาร์.แลบบ์ โฆษกประจำโรงพยาบาลพีเตอร์ จอห์น สมิตท์ ในเมืองฟอร์ท เวิร์ต รัฐเทกซัส ได้แถลงเมื่อวานนี้ (26) ว่า ทางโรงพยาบาลจะหยุดการใช้เครื่องช่วยชีวิตกับผุ้ป่วยมูโนซ ที่ศาลได้สั่งเมื่อวันศุกร์ (24) ว่าเธอได้เสียชีวิตแล้วอย่างเป็นทางการ

ซึ่งมูโนซตั้งครรภ์ได้ 14 สัปดาห์ในขณะที่เธอหมดสติไปในวันที่ 26 เดือนพฤศจิกายน 2013 ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากลิ่มเลือดอุดตัน ทั้งครอบครัวและแพทย์ประจำโรงพยาบาลพีเตอร์ จอห์น สมิตท์ ต่างลงความเห็นตรงกันว่า สมองของมูโนซได้ตายแล้ว ซึ่งหมายความว่า เธอได้เสียชีวิตแล้วตามนิยามการแพทย์และตามกฎหมายรัฐเทกซัส และเด็กทารกอายุ 23 สัปดาห์ของเธอไม่สามารถถือกำเนิดได้ในสภาพอายุครรภ์ที่น้อยเช่นนี้ โดยครอบครัวของมูโนซและทนายประจำครอบครัวได้แสดงหลักฐานทางการแพทย์ชี้แจงต่อศาลว่า ทารกที่อยู่ภายในครรภ์ของมูโนซมีลักษณะผิดปกติเนื่องมาจากอาการขาดออกซิเจน แต่ทว่าที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลกลับยังต่อเครื่องช่วยชีวิตให้กับมูโนซเพื่อให้ร่างกายของเธอยังคงทำงานต่อไปเพื่อรักษาเด็กทารกที่อยู่ในครรภ์ของเธอ เพราะกฎหมายรัฐเทกซัสได้กำหนดว่า โรงพยาบาลไม่สามารถหยุดการรักษาด้วยเครื่องช่วยชีวิตให้กับหญิงที่ตั้งครรภ์ ไม่ว่ามันจะขัดต่อความปราถนาที่จะจบชีวิตของคนไข้ผู้นั้นก็ตาม ซึ่งเทกซัสเป็นรัฐที่ต่อต้านการยุติการตั้งครรภ์ รวมถึงไม่สนับสนุนให้รัฐต้องใช้เงินในการสนับสนุนการคุมกำเนิดให้กับผู้หญิงอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม มูโนซได้ถูกถอดเครื่องช่วยหายใจออกในเวลา 11.29 น.ในวันอาทิตย์(26) ครอบครัวมูโนซเผยกับสื่อช่อง 8 ท้องถิ่น “ขอให้ มาร์ลิซ มูโนซ ไปสูสุขติ และครอบครัวของเธอได้ต่อสู้เพื่อให้ความประสงค์ของเธอเป็นจริง” ทนายความของครอบครัวผู้ป่วยสมองตายกล่าวผ่านแถลงการณ์

อีริค มูโนซ สามีได้ยื่นฟ้องต่อโรงพยาบาลในวันที่ 14 มกราคม 2014 หลังจากได้โต้เถียงโรงพยาบาลที่ยังคงต่อเครื่องช่วยชีวิตให้กับภรรยาของเขา และนั่นเป็นการขัดความประสงค์สุดท้ายของเธอซึ่งมาจากครอบครัวเจ้าหน้าที่การแพทย์กู้ชีพฉุกเฉิน โดยทั้งตัวอีริคและมาลิซนั้นเป็นเจ้าหน้าที่การแพทย์กู้ชีพฉุกเฉิน คนทั้งคู่มีความคุ้นเคยในภาวะการเสียชีวิต และไม่ปรารถนาที่จะให้ร่างของตัวเองต้องต่อกับเครื่องช่วยชีวิตเพื่อยื้อต่อไป