เอเอฟพี – ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต้องการให้นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ คำนึงถึงผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน หลังผู้นำญี่ปุ่นเดินทางไปสักการะศาลวีรชนสงคราม “ยาสุกุกนิ” จนทำให้จีนและเกาหลีใต้ออกมาประท้วงอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี ชาวเมืองปลาดิบส่วนมากยังรู้สึกพึงพอใจกับผลงานที่ผ่านมาของนายกฯ ผลสำรวจความคิดเห็นซึ่งเผยแพร่วันนี้ (29) ระบุ
จากการสำรวจความเห็นทางโทรศัพท์โดยสำนักข่าวเกียวโดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ผู้ตอบคำถามร้อยละ 69.8 ระบุว่า ผู้นำสายอนุรักษนิยมอย่าง อาเบะ ควรตระหนักว่าสังคมจะตีความการไปเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิของเขาอย่างไร
ร้อยละ 47.1 เห็นว่า อาเบะ ไม่ควรไปสักการะศาลวีรชนสงคราม
ทั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโดยังไม่เผยรายละเอียดของการสำรวจความคิดเห็นระดับชาติครั้งนี้ รวมไปถึงจำนวนผู้ที่ตอบคำถาม
เมื่อวันพฤหัสบดี (26) อาเบะ กลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของญี่ปุ่นในรอบ 7 ปีที่เดินทางไปสักการะศาลเจ้ายาสุกุนิ ซึ่งเป็นสถานที่บูชาดวงวิญญาณชาวญี่ปุ่นราว 2.5 ล้านคนที่เสียชีวิตไปในสงครามครั้งต่างๆ และยังเป็นที่เก็บป้ายวิญญาณอดีตนายทหารระดับสูงในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถูกฝ่ายสัมพันธมิตรตราหน้าว่าเป็น “อาชญากรสงคราม”
รัฐบาลจีน, สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ต่างออกมาตำหนิการกระทำของผู้นำญี่ปุ่นอย่างรุนแรง และวันนี้(29) ก็มีรายงานจากหน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นว่า เรือรัฐบาลจีน 3 ลำได้รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำรอบหมู่เกาะพิพาท “เซ็งกากุ” หรือที่จีนเรียกว่า “เตี้ยวอี๋ว์” อยู่นานหลายชั่วโมง
นักวิชาการญี่ปุ่นจำนวนมากแสดงความเป็นห่วงว่า การเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิของผู้นำญี่ปุ่นจะบั่นทอนความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งก็เป็นคู่ค้าที่สำคัญกับญี่ปุ่นด้วย อย่างไรก็ดี ฝ่ายที่สนับสนุน อาเบะ กลับมองว่า การที่นายกรัฐมนตรีไปเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิถือเป็น “ชัยชนะ” ครั้งสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงสามัญสำนึกแห่งความกตัญญูรู้คุณที่บรรดาทหารหาญผู้ล่วงลับสมควรจะได้รับจากคนรุ่นหลัง และรัฐบาลต่างชาติก็ไม่ควรก้าวก่ายกิจการภายในของญี่ปุ่น
อาเบะ เองก็ยืนยันว่า เขาไม่ได้มีเจตนารบกวนความรู้สึกของประเทศเพื่อนบ้าน
แม้จะเกิดประเด็นโต้แย้งเรื่องศาลวีรชนสงคราม แต่คณะรัฐมนตรีของ อาเบะ ยังมีคะแนนนิยมสูงถึงร้อยละ 55 ไม่ต่างจากการสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่จำนวนประชาชนที่บอกว่าไม่ชอบรัฐบาลลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 33 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 32.5
ผลสำรวจยังพบว่า ผู้ตอบคำถามร้อยละ 71.2 เห็นว่าญี่ปุ่นน่าจะจัดการซ้อมรบในจังหวัดอื่นๆ โดยมีการนำเครื่องบินชนิดปรับใบพัด “ออสเปรย์” ของนาวิกโยธินสหรัฐฯมาเข้าร่วมด้วย ซึ่งปัจจุบันเครื่องบินออสเปรย์ยังคงประจำการอยู่ที่ฐานทัพอากาศฟุเตนมะบนเกาะโอกินาวา