เอเอฟพี - รัฐมนตรีญี่ปุ่นและ ส.ส. เกือบร้อยคนเดินทางไปสักการะศาลวีรชนสงครามในกรุงโตเกียว วันนี้(15) ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเคืองแค้นแก่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งมองว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์แทนความก้าวร้าวของญี่ปุ่นในยุคจักรวรรดินิยม
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ยังได้แหวกธรรมเนียมที่ผู้นำญี่ปุ่นถือปฏิบัติมานานนับสิบปีในวันครบรอบการพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเลี่ยงที่จะเอ่ยคำว่า “สำนึกผิดอย่างสุดซึ้ง” และ “ไว้อาลัยอย่างจริงใจ” ต่อเพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้เขาเป็นผู้นำญี่ปุ่นคนแรกในรอบเกือบ 20 ปีที่ไม่ขอโทษในสิ่งที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นทำไว้
อาเบะ กล่าวว่า “ผมจะไม่ลืมความจริงที่ว่า สันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองที่เรามีอยู่ในวันนี้ ได้มาจากการเสียสละชีวิตอันมีค่ามากมายของท่านทั้งหลาย” ซึ่งก็หมายถึงวิญญาณชาวญี่ปุ่น 2.5 ล้านคนที่ได้รับการบูชากราบไหว้อยู่ที่ศาลเจ้ายาสุกุนิ
อาเบะ ยังละทิ้งธรรมเนียมของผู้นำญี่ปุ่นคนก่อนๆ ที่จะต้องรับปากว่า “ญี่ปุ่นจะไม่เข้าร่วมสงครามอีก”
ตำรวจนับร้อยนายถูกส่งมารักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณศาลเจ้ายาสุกุนิ ขณะที่กลุ่มชาตินิยมขวาจัดชูธงเชิญชวนให้ผู้ที่มาเยือนเข้าไปแสดงความเคารพต่อ “วีรบุรุษสงคราม” ในวันครบรอบ 68 ปีที่ญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 1945
เป็นที่คาดหมายก่อนหน้านี้แล้วว่า อาเบะ ซึ่งเป็นผู้นำสายอนุรักษ์นิยม และชูนโยบายฟื้นญี่ปุ่นให้กลับมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ จะไม่ปรากฎตัวที่ศาลเจ้ายาสุกุนิในปีนี้ แต่มีรายงานว่าเขาได้ส่งผู้ช่วยนำเครื่องสักการะไปวางแทน
ศาลเจ้ายาสุกุนิสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่สักการะดวงวิญญาณชาวญี่ปุ่น 2.5 ล้านคนที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และในความขัดแย้งครั้งอื่นๆ ในจำนวนนี้ยังรวมถึงอดีตผู้นำ 14 คนซึ่งถูกฝ่ายสัมพันธมิตรตราหน้าเป็น “อาชญากรสงคราม” เช่น นายพลฮิเดกิ โตโจ ซึ่งเป็นผู้สั่งการให้ทิ้งระเบิดที่อ่าวเพิร์ล รัฐฮาวาย จนทำให้สหรัฐฯ ประกาศเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2
การเยือนศาลวีรชนสงครามของนักการเมืองญี่ปุ่นสร้างความโกรธแค้นต่อจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งมองว่าโตเกียวไม่พยายามชดเชยความผิดที่เคยก่อไว้กับเพื่อนบ้านในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 รวมถึงการเข้ายึดครองคาบสมุทรเกาหลีนานถึง 35 ปี
โยชิตากะ ชินโด รัฐมนตรีฝ่ายกิจการภายในและการสื่อสาร และ เคอิจิ ฟุรุยะ รัฐมนตรีผู้ดูแลกรณีชาวญี่ปุ่นถูกเกาหลีเหนือลักพาตัว ต่างเดินทางไปสักการะศาลวีรชนสงครามตั้งแต่เช้าวันนี้(15) และในช่วงสายๆ ก็มีบรรดา ส.ส.ทยอยเดินทางไปยังศาลเจ้าอีกประมาณ 90 คน
ชินโด ระบุว่า ตนเองมาสักการะศาลเจ้า “ด้วยเหตุผลส่วนตัว” ซึ่งไม่ควรถูกโยงเป็นประเด็นขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับเพื่อนบ้าน ขณะที่ ฟุรุยะ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “การปลอบโยนดวงวิญญาณผู้ที่เสียชีวิตในสงครามเป็นเรื่องภายในประเทศ”
เมื่อวันอังคาร(13) รัฐบาลเกาหลีใต้ได้แถลงประณามการสักการะศาลเจ้ายาสุกุนิล่วงหน้า โดยชี้ว่า “รัฐบาลและประชาชนของเราจะไม่อดทนต่อการกระทำเช่นนี้”
ในญี่ปุ่นเองก็มีกระแสคัดค้านการสักการะศาลวีรชนสงครามเช่นกัน แม้กระทั่งญาติผู้เสียชีวิตบางคนก็ยังมองว่า ศาลเจ้ายาสุกุนิเป็นสิ่งเชิดชูสงครามและประวัติศาสตร์ด้านมืดของญี่ปุ่น