รอยเตอร์ - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า ในวันอาทิตย์(22)ที่ผ่านมาพลเมืองอเมริกันราว 380 คนได้ถูกอพยพออกจากเมืองบอร์ที่เป็นแหล่งผลิตน้ำมันแหล่งใหญ่ของสาธารณรัฐซูดานใต้ไปยังกรุงจูบา เมืองหลวงของประเทศ หลังจากความขัดแย้งได้ก่อตัวขึ้นจนเกือบพัฒนาเป็นสงครามกลางเมือง
“ในเช้าวันอาทิตย์(22) ปฎิบัติการร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ องค์การสหประชาชาติ และรัฐบาลซูดานใต้ได้ประสบความสำเร็จในการอพยพเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พลเรือนอเมริกัน ออกจากเมืองบอร์ที่ในขณะนี้ถูกควบคุมโดยกลุ่มกบฎซูดานใต้ไปยังกรุงจูบาด้วยเฮลิคอปเตอร์ของยูเอ็นและของบ.เอกชน สหรัฐฯ” รายงานจากแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
ซึ่งในแถลงการณ์นั้นไม่ได้ระบุถึงจำนวนที่แน่นอนของชาวอเมริกันที่ต้องอพยพไปยังเมืองหลวงของซูดานใต้ 1 วัน หลังภายหลังจากที่เครื่องบิน 3 ลำของกองทัพสหรัฐฯได้ถูกโจมตีจากกลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่ายในระหว่างที่พยายามจะอพยพพลเรือนสหรัฐฯ
“ในขณะที่ผมได้ติดตามสถานการณ์การสู้รบในซูดานใต้อย่างใกล้ชิด ผมอาจต้องลงมือทำให้แน่ใจถึงความปลอดภัยต่อประชาชนชาวอเมริกัน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และทรัพย์สินของประเทศ ที่รวมถึงสถานทูตสหรัฐฯประจำซูดานใต้” ประธานาธิบดีสหรัฐฯบารัค โอบามา กล่าวในจดหมายส่งถึงผู้นำในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯและวุฒิสภาสหรัฐฯ
จากทั้งหมดมีเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและพลเมืองอเมริกันราว 380 คนได้อพยพออกจากเขตสู้รบในซูดานใต้ กระทรวงการต่างประเทศแถลงต่อ นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯยังเผยว่าได้อพยพประชาชนชาติอื่นๆอีกราว 300 คนไปยังกรุงไนโรบี เคนยา และที่หมายอื่นนอกนอกประเทศซูดานใต้ด้วยเครื่องบินชาร์เตอร์ 4 ลำและเครื่องบินทหารอีก 5 ลำ
“รัฐบาลสหรัฐฯกำลังทุกสิ่งที่เป็นไปได้เพื่อทำให้มั่นใจในความปลอดภัยของพลเมืองอเมริกันในสาธารณรัฐซูดานใต้” เจน ซากี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวผ่านแถลงการณ์
นอกจากนี้ยังกล่าวว่า ทางสหรัฐฯและยูเอ็นได้ทำให้กลุ่มสู้รบเข้าใจว่า “การอพยพทางอากาศครั้งนี้ทำไปบนพื้นฐานมนุษยชนเป็นสำคัญ”
และโอบามายังกล่าวในจดหมายที่สงถึงสภาคองเกรสว่า “ประมาณว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารอีก 46 นาย” ได้ถูกสั่งให้ปฎิบัติหน้าที่เมื่อวันเสาร์(21)ที่ผ่านมาในการอพยพชาวอเมริกันทางอากาศออกจากพื้นที่สู้รบ ซึ่งหลังจากที่เครื่องบินทหารสหรัฐฯเข้าใกล้เขตเมืองบอร์และเครืองบินได้ถูกดจมตีในวันเสาร์(21) ปฎิบัติการได้ถูกระงับลงจากเหตุผลด้าน “ความปลอดภัยเป็นสำคัญ” โอบามากล่าว