เอเจนซีส์ - ริเอค มาชาร์ อดีตรองประธานาธิบดี ซูดานใต้ได้เผยกับบีบีซีว่า กลุ่มกบฏสามารถเข้ายึดรัฐยูนิตี (Unity) ที่เป็นแหล่งผลิตน้ำมันและพื้นที่ส่วนใหญ่ของซูดานใต้ หลังจากที่เครื่องบินทหารสหรัฐฯ CV-22 Ospreys 3 ลำถูกยิงและมีทหารอเมริกันได้รับบาดเจ็บ 4 นายในปฎิบัติการอพยพพลเมืองอเมริกัน และประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้ขู่จะตัดความช่วยเหลือหากมีการใช้กำลังทหารเข้ายึดอำนาจ
ริเอค มาชาร์ อดีตรองประธานาธิบดีซูดานใต้ เผยกับบีบีซีว่า กองกำลังที่ต่อสู้รัฐบาลอยู่ในขณะนี้นั้นอยู่ภายใต้การสั่งการของเขา ซึ่งสาธารณรัฐซูดานใต้ที่เพิ่งประกาศเอกราชเมื่อเดือนธันวาคม 2011จากสาธารณรัฐซูดานได้เข้าสู่จลาจลตั้งแต่ประธานาธิบดีซัลวา คีอีร์ ได้กล่าวหามาชาร์เมื่อ 1 สัปดาห์มาแล้วว่ามีความพยายามที่จะก่อรัฐประหาร
อดีตผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำซูดาน เจมส์ คอปแนลล์ ได้รายงานว่า ตอนนี้เหมือนกับเป็น “สงครามกลางเมือง” มีคนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 500 คนตั้งแต่เริ่มมีการต่อสู้ ที่รัฐบาลซูดานใต้พยายามอย่างหนักจะรักษาเมืองหลวง “กรุงจูบา” ไว้ให้ได้
การให้สัมภาษณ์ของมาชาร์เกิดขึ้นหลังจากนายทหารสหรัฐฯ 4 นายที่อยู่ในปฎิบัติการอพยพพลเรือนอมริกันนั้นได้รับบาดเจ็บเพราะเครื่องบินทางทหาร CV-22 Ospreys 3 เครืองของสหรัฐฯ ถูกโจมตีในเมืองบอร์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของรัฐ Jonglei นายทหารอเมริกันที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดได้รับการรักษาตัวในกรุงไนโรบี เคนยา และขณะนี้ทุกนายปลอดภัย
ซึ่งผู้สื่อขาวบีบีซีให้ความเห็นว่า กลุ่มกบฏได้โจมตีเครื่องบินอพยพพลเรือนสหรัฐฯ เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นเครื่องบินของยูกันดา ซึ่งยูกันดาถือเป็นอีกชาติหนึ่งที่ได้อพยพพลเรือนออกจากซูดานใต้และส่งทหารเข้าไปช่วยรัฐบาลซูดานใต้ในการรักษากรุงจูบา ในขณะที่ยูกันดาได้ปฎิเสธว่าส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มเมืองบอร์ รัฐยูนิตี ซึ่งเป็นรัฐชายแดนที่ถือเป็นแหล่งการผลิตน้ำมันของประเทศซึ่งถือเป็น 95% ของเศรษฐกิจซูดานใต้
ทางด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้เตือนว่า “ความพยายามใดๆ ที่จะใช้กำลังทางทหารในการยึดอำนาจจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯและประชาคมโลก” แถลงจากทำเนียบขาว
โดยโอบามาได้หารือกับทีมที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ในสถานการณ์ที่เครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯถูกโจมตี และได้เตือนเหล่าผู้นำระดับสูงของซูดานใต้ถึงความรับผิดชอบในการให้ความปลอดภัยต่อชาวอเมริกันในซูดานใต้
ในขณะที่วาติกันและอาร์กบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเรียกร้องให้หยุดการสู้รบในซูดานใต้ซึ่งประชากรของประเทศส่วนใหญ่ถ้าไม่นับถือลัทธิบูชาวิญญาณและผีบรรพบุรุษ (Animism) ก็จะเป็นชาวคริสต์
อย่างไรก็ตาม มาชาร์ได้เผยกับบีบีซีว่า ผู้บัญชาการกองทัพระดับสูง พล.อ.เจมส์ โคอัง ได้เข้าร่วมกับกลุ่มกบฎในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่รัฐบาลซูดานใต้กล่าวว่า โคอังได้เข้าร่วมกลุ่มกบฏเพียงลำพัง ไม่ได้นำกองกำลังเข้าร่วมด้วยแต่อย่างใด
นอกจากนี้ มาชาร์ยังเสริมว่า เขาพร้อมเจรจากับรัฐบาลซูดานใต้หากทางรัฐบาลจะทำการปล่อยตัวนักการเมืองที่ถูกจับกุมในสัปดาห์ที่ผ่านมาในประเทศที่เป็นกลางเช่น เอธิโอเปีย ซึ่งคีอีร์ตอบตกลงในการเจรจาหลังจากที่ได้พบกับชาติในแอฟริกาที่เป็นกลางในวันศุกร์ (20) ที่ผ่านมา
โดยคีอีร์ได้ปลดมาชาร์ที่ขณะนี้เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศออกจากตำแหน่งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา