อินดิเพนเดนท์ - นักศึกษาสาวชาวอิตาลีรายหนึ่งถูกตั้งข้อหาประทุษร้ายทางเพศ หลังเธอถูกถ่ายภาพได้ขณะที่กำลังบรรจงจูบลงตรงหมวกป้องกันของตำรวจปราบจลาจลระหว่างการชุมนุมประท้วงเมื่อเดือนที่แล้ว
รายงานข่าวระบุว่านางสาวนินา เดอ ชิฟเฟร นักศึกษาวัย 20 ปี ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายขณะที่กำลังจูบตรงหมวกกันน็อคของเจ้าหน้าที่ซัลวาโตเร ปิคซิโอเน ระหว่างการประท้วงต่อต้านแผนก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงทางภาคเหนือของอิตาลี ที่คาดหมายว่าจะช่วยลดเวลาการเดินทางจากมิลานไปยังกรุงปารีสของฝรั่งเศส จาก 7 เหลือแค่ 4 ชั่วโมง
ต่อมาภาพถ่ายดังกล่าวก็ถูกเผยแพร่บนโลกสังคมออนไลน์และได้รับการยกย่องในฐานะสัญลักษณ์แห่งการประท้วงอย่างสันติของประเทศ อย่างไรก็ตามทาง COISP สหภาพตัวแทนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยในภายหลังว่าพวกเขาได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีต่ออัยการเมืองตูรินแล้ว
ฟรังโก มัคคารี เลขาธิการทั่วไปของสหภาพตำรวจให้สัมภาษณ์กับสื่ออิตาลีว่า "เราฟ้องร้องผู้ประท้วงในฐานความผิดความรุนแรงทางเพศและดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐ กลับกันหากตำรวจนายนั้นจูบเธอ บางทีสงครามโลกครั้งที่ 3 อาจระเบิดขุึ้น หรือไม่หากว่าผมตีข้างหลังเธอเบาๆ เธอก็คงโกรธ ดังนั้นเธอจึงควรทำแบบนั้นกับผู้ชายที่กำลังปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ควรอดทนงั้นหรือ" เขากล่าว "การจูบเป็นสิ่งดี แต่ในบริบทนี้ ระหว่างทั้งสองคน มันเป็นแค่เรื่องของการขาดความเคารพ"
ทั้งนี้รายงานข่าวที่ปรากฎออกในเวลาต่อมาระบุว่านางสาวนินา เดอ ชิฟเฟร ไม่ได้แค่จูบเจ้าหน้าที่ แต่ยังเลียนิ้วตัวเองแล้วยื่นไปสัมผัสปากของตำรวจนายดังกล่าวด้วย และนับตั้งแต่นั้นเธอก็ถูกตั้งข้อหากระทำรุนแรงทางเพศและก่อความขุ่นเคืองแก่เจ้าหน้าที่รัฐ
ด้านนายตำรวจซัลวาโตเร ปิคซิโอเน ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า "เมื่อผมสวมใส่เครื่องแบบ ผมก็คือตัวแทนของสถาบันตำรวจ และผมมีหน้าที่ไม่โต้ตอบการยั่วยุใดๆ เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญและท้ายที่สุดแล้วการชุมนุมก็ดำเนินไปโดยปราศจากความวุ่นวาย"