มาร์เก็ตวอชต์ /รอยเตอร์ - วอลล์สตรีทวานนี้ (25) ดิ่งลงแรง จากผลประกอบการบริษัทที่น่าผิดหวังและความกังวลรอบใหม่ต่อเหตุตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน ปัจจัยหลังนี้ผลักให้ทองคำขยับขึ้น 3 วันติด ส่วนน้ำมันปิดลบพอสมควร ตามอุปสงค์ที่อ่อนแอในสหรัฐฯ
ดาวโจนส์ ลดลง 140.19 จุด (0.85 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,361.46 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 15.21 จุด (0.81 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,863.40 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 72.78 จุด (1.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,075.56 จุด
ในวันศุกร์ (25) รายงานข่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรี อาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค ของเคียฟ กล่าวหารัสเซีย ต้องการ “เปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วยการรุกรานยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ก็บอกว่าจะปรึกษากับเหล่าผู้นำชาติยุโรปเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน และเตือนว่าพร้อมที่จะคว่ำบาตรมอสโกเพิ่มเติม”
นอกเหนือจากความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์แล้ว ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (25) ยังร่วงลงตามแรงฉุดของรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่่น่าผิดหวังของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง อะเมซอน ดอทคอม และฟอร์ด มอเตอร์
ด้านราคาทองคำในวันศุกร์ (25) ขยับขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังการดิ่งลงของตลาดทุนท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย กระตุ้นให้นักลงทุุนหันมาถือโลหะมีค่าชนิดนี้ ที่ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,300.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราคาน้ำมันวานนี้ (25) ยักไหล่ต่อวิกฤตระหว่างมหาอำนาจตะวันตกกับรัสเซียในประเด็นยูเครน โดยขยับลงพอสมควร จากแรงขายทำกำไรและอุปสงค์ที่อ่อนแอในสหรัฐฯ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.34 ดอลลาร์ ปิดที่ 100.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 75 เซนต์ ปิดที่ 109.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ข้อมูลของสำนักสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) ที่เปิดเผยเมื่อวันพุธ (23) ไม่ได้แค่เผยให้เห็นว่าคลังน้ำมันดิบสำรองแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันว่าอเมริกาสามารถผลิตน้ำมันได้มากขึ้น สวนทางกับอุปสงค์ที่ลดลงเรื่อยๆ