เอพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สื่อนอกอย่างสำนักข่าวเอพี ระบุชัด “แม้ว” บงการรัฐบาลจากดูไบ ดิ้นรนทุกทางเพื่อให้ได้คืนสู่อำนาจ แต่กลับทำให้สถานการณ์การเมืองร้าวลึกและนองเลือด เชื่อทักษิณยังต้องเร่ร่อนอยู่นอกประเทศอีกนานจากการคำนวณผิดพลาดดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย กระนั้นนักวิเคราะห์เชื่อว่าเงินทองที่มีมหาศาลอีกทั้งเครือข่ายบริวารที่ยังอยู่ในตำแหน่ง และพวกเสื้อแดงในต่างจังหวัดที่นิยมชมชอบเขา ทำให้แม้วจะยังคงใช้อิทธิพลที่มีอย่างเหลือเฟือชักใยสถานการณ์ในเมืองไทยต่อไปอีกหลายปี
รายงานของสำนักข่าวเอพีระบุว่า ทักษิณ ชินวัตร จะยังคงเป็นบุคคลที่สร้างความขัดแย้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของไทย โดยชนชั้นกลางและชนชั้นสูงในเมืองหลวงกล่าวหาว่าเขาเหิมกริม ร่ำรวยอย่างรวดเร็วจากการคอร์รัปชัน อีกทั้งท้าทายโครงสร้างอำนาจที่รวมถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นที่เทิดทูนของคนจนจากการแจกเงินและทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกว่าตนเองมีอำนาจ
“เขาซื้อทุกอย่างในประเทศนี้ เขาต้องการแม้กระทั่งซื้อวิญญาณของคุณ” จินดา ธรรมวงศ์ นักธุรกิจหญิงที่ไปร่วมเดินขบวอยู่ในกลุ่มประชาชนที่ตะโกน “ทักษิณออกไป!” บอกกับเอพี
ขณะเดียวกัน คนภาคอีสานซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญยกย่องว่า แม้วนำสวัสดิการหลายอย่างมามอบให้ เช่น ไฟฟ้า เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การรักษาพยาบาลฟรี การรับซื้อข้าวโดยให้ราคาดี "ทั้งหมดนี้เป็นเพราะทักษิณ เพราะแบบนี้คนต่างจังหวัดถึงอยากให้เขากลับมา” ทองจัน โพตากลาง ชาวบ้านวัย 61 ปีของหมู่บ้านคำบอน (Kambon) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือคนหนึ่งบอก
ทางด้าน ฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกล่าวว่า “อะไรๆ ในเมืองไทยเกี่ยวข้องกับทักษิณไปหมด แต่วันนี้กำลังมีอะไรๆ ที่มากกว่าเรื่องของทักษิณแล้ว”
เรื่องที่ว่าอาจหมายถึง สุเทพ เทือกสุบรรณ นักการเมืองฝ่ายค้านคนสำคัญ ที่ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาและเป็นแกนนำการประท้วงเพื่อให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตั้ง “สภาประชาชน” มาแทนที่เพื่อขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ
นับจากการประท้วงเริ่มต้นเมื่อเดือนที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คนและบาดเจ็บอีกเกือบ 300 คน และผู้ประท้วงยังเข้ายึดสถานที่ราชการบางแห่งชั่วคราว
ระหว่างวิกฤตการเมืองล่าสุดนี้ ทักษิณที่เนรเทศตัวเองไปอยู่แมนชั่นหรูในดูไบเพื่อหนีคดีคอร์รัปชั่น สงบปากสงบคำเป็นส่วนใหญ่ กระนั้น เมื่อไม่กี่วันนี้เขาได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กยืนยันว่า ไม่ได้คิดคดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมระบุว่า การเมืองไทยโหดร้ายเลือดเย็น และวิงวอนขอให้คนไทยอย่าโหดร้ายกับตน
รายงานชิ้นนี้ของเอพีแจกแจงประวัติความเป็นมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยชี้ว่า ตลอดเส้นทางการเมืองของเขานั้น ทักษิณเป็นคนที่ถือดีและบางทีก็เป็นนักสู้ที่อำมหิต
ทั้งนี้ หลังจากได้รับปริญญาเอกสาขากระบวนการยุติธรรมจากมหาวิทยาลัยแซม ฮิวสตันในเทกซัส และขณะรับราชการในกรมตำรวจ ลูกจีนอพยพผู้นี้ได้ใช้สายสัมพันธ์จนได้มาซึ่งการผูกขาดธุรกิจที่กลายเป็นบริษัทโทรศัพท์มือถือที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประเทศ
ปี 2544 หลังจากได้ชัยชนะท่วมท้น ทักษิณขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่นำรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งบริหารประเทศครบเทอม และใน 5 ปีต่อมา เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างมากเช่นเดียวกับทรัพย์สินเงินทองของตระกูลชินวัตร ซึ่งถูกกล่าวหาว่า ได้มาจากการโกงกินแบบบูรณาการ
นโยบายประชานิยม สไตล์การบริหารแบบซีอีโอ และการยินดีลงพื้นที่พบปะชาวบ้านในชนบทส่งให้ทักษิณได้ใจผู้สนับสนุนนับล้าน แต่ขณะเดียวกัน เขากลับจำกัดเสรีภาพสื่อ นำเทือกเถาวงศ์วานเข้ารับตำแหน่งสำคัญๆ และทำลายระบบตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจตามระบอบประชาธิปไตยด้วยการโยกย้ายข้าราชการที่ต่อต้านตนเอง
กลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศกล่าวหาทักษิณใช้ศาลเตี้ยในสงครามปราบปรามยาเสพติดปี 2546 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,200 คน
ปัจจุบัน ทักษิณที่ยังคงทะเยอะทะยานไม่หยุดนิ่ง ได้สร้างอาณาจักรธุรกิจแห่งที่ 2 ภายนอกประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการลงทุนในโครงการเหมืองแร่หลายแห่งมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ในแอฟริกา การซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตีในปี 2550 และขายในปีต่อมา นอกจากนั้นเขายังเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจให้กัมพูชาและอีกหลายประเทศ และไปเปิดตัวกิจการลอตเตอรี่ “โก ลอตโต้” ที่โด่งดังในอูกานดา และซื้อบูติกโฮเต็ลในมอนเตเนโกร ตามประสา “คนที่นั่งเฉยๆ ไม่เป็น” แบบที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับวิทยุโทรทัศน์ ออสเตรเลียน บรอดแคสติ้ง คอร์เปอเรชัน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์พร่ำบอกว่าพี่ชายไม่อยากข้องเกี่ยวกับการเมือง และตัวทักษิณเองก็ออกตัวแบบนั้นเหมือนกัน แต่เขากลับโฟนอินแนะนำสาวกในพรรคเพื่อไทยอย่างเปิดเผย รวมทั้งเรียกคณะรัฐมนตรีให้ไปประชุมในต่างประเทศ
“ผมคิด เพื่อไทยทำ” ทักษิณให้สัมภาษณ์นิตยสารฟอร์บส์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสโลแกนที่พรรคเพื่อไทย นำไปใช้กระทั่งได้ชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งปี 2554
เอพีชี้ว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้เป็นเพียงบทล่าสุดของการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยอย่างแท้จริงของไทย และทักษิณพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่า เป็นตัวเร่งที่ปลุกเสียงคนซึ่งเคยถูกมองข้ามมานานที่อยู่ในต่างจังหวัด และเคยขับเคลื่อนให้ตัวเขาได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง จนกระทั่งสามารถท้าทายกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ได้รับการปกป้องมานาน
รายงานของสำนักข่าวสัญชาติอเมริกันรายนี้เล่าต่อไปว่า ทักษิณออกจากเมืองไทยในปี 2551 ก่อนที่ศาลจะตัดสินจำคุกเขา 2 ปีข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อช่วยภรรยาซื้อที่ดินที่ทางการนำออกประมูล ทว่า ทักษิณอ้างว่า คำพิพากษาดังกล่าวรวมถึงข้อหาคดีอาญาอื่นๆ อีกหลายคดีเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง
เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์พยายามผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่สภา เพื่อนิรโทษกรรมให้แก่พี่ชาย รวมทั้งผู้นำรัฐบาลชุดที่แล้วที่ต่อต้านระบอบทักษิณ ซึ่งรวมถึงสุเทพที่สั่งให้กองทัพเคลียร์กลุ่มเสื้อแดงที่ก่อจลาจลในย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา โดยปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิต 90 คนในช่วง 2 เดือนที่เกิดความวุ่นวายบนท้องถนน
ทว่า ความพยายามดังกล่าวล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และกลับจุดชนวนให้ประชาชนจำนวนมากลุกขึ้นมาประท้วงโดยมุ่งมั่นที่จะล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถึงแม้สภาสูงยอมถอน พ.ร.บ.ฉบับนั้น และยิ่งลักษณ์ยุบสภาและประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็ตาม
นักวิเคราะห์บางคนมองว่า แม้บริษัทบริวารของทักษิณยังคงสามารถครองอำนาจ แต่หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ทำให้ทางเลือกในการกลับประเทศของเขาเหลือเพียง 2 ทาง คือ ขอพระราชทานอภัยโทษซึ่งไม่มีแนวโน้มเกิดขึ้น หรือไม่ก็ต้องยอมเข้าคุก
แต่เอพีก็ชี้ว่า แม้เพลี่ยงพล้ำ แต่ไม่ได้หมายความว่าอำนาจทางการเมืองของทักษิณอ่อนแอลง เนื่องจากเขายังมีเงินทองมากมายซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเมืองไทย ทั้งนี้ ฟอร์บส์ประเมินในปีนี้ว่า ตระกูลชินวัตรมีทรัพย์สินถึง 1,700 ล้านดอลลาร์ และเป็นตระกูลที่มั่งคั่งที่สุดอันดับ 10 ของเมืองไทย
เบนจามิน ซาวิกกี ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขององค์การคณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล คาดว่าทักษิณจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการเมืองไทยอีกหลายปี แต่ไม่เชื่อว่า เขาจะสามารถกลับเมืองไทยได้ในเร็วๆ นี้