เอเจนซี – หนังสือพิมพ์ สเตรตไทม์ส ของสิงคโปร์ ประกาศมอบรางวัล Asian of the Year ประจำปี 2013 ให้แก่ประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ของจีน และนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น พร้อมเสนอแนะให้ผู้นำทั้ง 2 ชาติร่วมมือกันคลี่คลายปมขัดแย้งระหว่างประเทศ
คณะบรรณาธิการของ สเตรตไทม์ส ตัดสินใจละเว้นธรรมเนียมการคัดเลือกผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว และมอบรางวัล Asian of the Year ให้แก่ผู้นำจีนและญี่ปุ่นพร้อมกันในปีนี้ โดยระบุว่าทั้งสองนอกจากจะมีบทบาทสำคัญต่อการปฏิรูปภายในประเทศแล้ว ยังดำเนินนโยบายการทูตที่โดดเด่นในภูมิภาคอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของทั้งคู่ ตลอดจนความหวังว่าจะเกิดสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก ก็ขึ้นอยู่กับ สี่ และ อาเบะ ว่าจะสามารถร่วมมือกันบริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้เป็นไปในเชิงบวกได้มากน้อยเพียงใด
วอร์เรน เฟอร์นันเดซ บรรณาธิการใหญ่ของ สเตรตไทม์ส ชี้ว่า “ผู้นำทั้ง 2 ท่านล้วนดำเนินการปฏิรูปประเทศอย่างครอบคลุมกว้างขวาง ขณะเดียวกันก็พยายามเสริมสร้างอิทธิพลของประเทศตนเองในภูมิภาค”
“หากนโยบายที่ทั้งสองท่านนำมาใช้ประสบความสำเร็จ ก็จะส่งผลต่อวิถีชีวิตพลเมืองหลายล้านคนทั่วเอเชีย และช่วยสร้างอนาคตที่ดีขึ้น”
“การที่ผู้นำทั้งสองได้รับรางวัล Asian of the Year ร่วมกันยังเป็นสิ่งย้ำเตือนว่า จีนและญี่ปุ่นมีหน้าที่ที่จะต้องประคับประคองมิให้ความแตกต่างระหว่างกันลุกลามจนถึงขั้นควบคุมไม่ได้... เอเชียและโลกไม่อาจทนรับผลกระทบจากปัญหาความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นที่ย่ำแย่ลง”
ในเดือนธันวาคมทุกปี สเตรตไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1845 จะมอบรางวัล Asian of the Year ให้แก่บุคคลหรือองค์กรที่มีบทบาทเด่นชัดในการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองแก่ภูมิภาคเอเชีย
ปีที่แล้ว ผู้นำที่คว้ารางวัลนี้ไปได้แก่ ประธานาธิบดี เต็ง เส่ง ของพม่า ซึ่งได้ดำเนินการปฏิรูปประชาธิปไตยในประเทศ และเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ
สี่ จิ้นผิง ก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุดของจีนในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ขณะที่ อาเบะ ก็เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นไล่หลังกันเพียงไม่กี่สัปดาห์ แต่นโยบายที่ผู้นำทั้งสองให้ความสำคัญตรงกันก็คือ การกระชับไมตรีกับเพื่อนบ้านในเอเชีย
อาเบะ ซึ่งนั่งเก้าอี้ผู้นำเมืองปลาดิบเป็นสมัยที่ 2 ได้เดินทางเยือนภูมิภาคอาเซียนทุกประเทศ และได้ส่งกองกำลังป้องกันตนเองไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์ ซึ่งถือเป็นการเรียกระดมพลครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงที่ประเทศปลอดศึกสงคราม
อาเบะ ยังประกาศ “ยกหนี้” มูลค่า 300,000 ล้านเยนให้แก่รัฐบาลพม่าในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วย
ด้านประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง ก็ได้เดินทางเยือนประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย รวมถึงมอบหมายให้นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ปฏิบัติหน้าที่แทนในบางครั้ง เมื่อเดือนตุลาคม สี่ จิ้นผิง ยังเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาผู้แทนราษฎรของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศใหญ่อันดับ 1 ของอาเซียน
จีนยังเป็นหุ้นส่วนสำคัญในโครงการปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานในหลายประเทศ