เอเจนซีส์ - ผู้นำทั่วโลกเกือบ 100 คนเข้าร่วมสมทบกับชาวแอฟริกาใต้เรือนหมื่นเพื่อให้เกียรติและไว้อาลัยแด่ “เนลสัน แมนเดลา” วีรบุรุษผู้ต่อสู้ล้มล้างระบบเหยียดผิวซึ่งกล้ากล้ำกลืนความเคียดแค้นชิงชังและเลือกประคับประคองความปรองดองในชาติ โดยพิธีไว้อาลัยซึ่งจัดขึ้นที่สนามฟุตบอลเมืองโซเวโตวันอังคาร (10 ธ.ค.) นี้ เต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นเริงมุ่งเฉลิมฉลองให้แก่ชีวิตของบุคคลยิ่งใหญ่ของโลกผู้นี้ ถึงแม้ฝนได้ตกกระหน่ำและอุณหภูมิหนาวเหน็บ
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้นำทั่วโลกซึ่งเข้าร่วมพิธีนี้ และได้ขึ้นกล่าวไว้อาลัยด้วยโดยได้รับเสียงปรบมือกึกก้อง โดยเขาเรียกร้องให้ประชาชนศึกษาและประยุกต์ใช้บทเรียนของแมนเดลา ผู้ถูกระบอบปกครองเหยียดผิวจองจำคุมขังอยู่ 27 ปี แต่พอเขาได้รับอิสรภาพก็กลับพร้อมอ้าแขนต้อนรับเหล่าศัตรู และร่วมมือกันก้าวเดินสู่ยุคใหม่แห่งการให้อภัยและความปรองดองในแอฟริกาใต้
“เป็นเรื่องยากที่เราจะยกย่องสรรเสริญใครสักคนหนึ่ง ... แต่เป็นเรื่องยากเย็นยิ่งกว่าสักแค่ไหนที่จะยกย่องสรรเสริญคนที่เป็นยักษ์ใหญ่ของประวัติศาสตร์ คนซึ่งผลักดันประเทศชาติให้เคลื่อนเข้าสู่ความยุติธรรม” โอบามากล่าว
“เขาไม่ได้เป็นรูปปั้นที่ทำด้วยหินอ่อน เขาเป็นคนที่ประกอบด้วยเลือดด้วยเนื้อ” โอบามาซึ่งเหมือนกับแมนเดลา มีฐานะเป็นประธานาธิบดีผิวดำของประเทศ พูดในอีกตอนหนึ่ง โดยที่เขาเล่าด้วยว่า เมื่อตอนที่เขายังเป็นนักศึกษาอยู่นั้น แมนเดลา “ได้ปลุกให้ผมตื่นขึ้นมาแบกรับความรับผิดชอบของผม – ที่มีต่อคนอื่น และที่มีต่อตัวผมเอง และตระเตรียมผมให้เข้าสู่การเดินทางที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ซึ่งได้นำผมมายังที่นี่ในวันนี้”
ตรงกันข้ามกับการต้อนรับอย่างชื่นชมยินดีสุดๆ ที่ให้แก่โอบามา ประธานาธิบดีจาค็อบ ซูมา ของแอฟริกาใต้เองกลับถูกฝูงชนโห่ขับไล่ เนื่องจากชาวแอฟริกาใต้จำนวนมากไม่พอใจซูมา จากกรณีอื้อฉาวทุจริตคอร์รัปชั่นหลายต่อหลายเรื่อง ถึงแม้พรรคแอฟริกัน เนชั่นแนล คองเกรส (เอเอ็นซี) ของเขา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยนำโดยแมนเดลา ยังคงเป็นตัวเก็งที่จะชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปีหน้า
อากาศที่ย่ำแย่เนื่องจากฝนตกตั้งแต่เช้าจนถึงตอนมีพิธีและอุณหภูมิอันหนาวเหน็บ ตลอดจนปัญหาการขนส่งมวลชน ทำให้ผู้คนจำนวนมากยังเดินทางมาไม่ถึงหรือเปลี่ยนความตั้งใจ และสนามกีฬาเอฟเอ็นบีในโซเวเต ชานนครโยฮันเนสเบิร์ก ซึ่งใช้เป็นที่จัดพิธีซึ่งมีความจุเต็มที่ 95,000 ที่นั่ง มีคนราวสองในสามเท่านั้นตอนที่เริ่มพิธี
รถไฟบางขบวนจากจำนวนหลายสิบขบวนซึ่งจัดไว้สำหรับนำประชาชนมายังสนามกีฬาแห่งนี้ ต้องล่าช้าเนื่องจากเกิดไฟฟ้าดับ
ถึงแม้การถึงแก่อสัญกรรมของแมนเดลาในวันพฤหัสบดี (5) ที่แล้วจะทำให้ทั่วทั้งแอฟริกาใต้บังเกิดความรู้สึกเศร้าโศกอย่างล้ำลึก ทว่าบรรยากาศของพิธีคราวนี้ ก็เฉกเช่นเดียวกับวันอื่นๆ ก่อนหน้านี้ นั่นคืออุดมไปด้วยความรื่นเริง โดยประชาชนมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเฉลิมฉลองให้แก่ชีวิตและผลงานของรัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 ผู้นี้
พิธีไว้อาลัยเริ่มต้นเวลาเที่ยงตามเวลาท้องถิ่นด้วยการร้องเพลงชาติแอฟริกาใต้ จากนั้นผู้มีเกียรติคนต่างๆ ก็ขึ้นกล่าวไว้อาลัย
บัน คีมูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ชี้ว่า แม้กระทั่งในเวลาที่สิ้นชีวิตไปแล้ว แมนเดลาก็ประสบความสำเร็จในการนำเอาผู้คนความคิดต่างกันมามารวมตัวกัน เฉกเช่นเดียวกับตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่
“ลองมองไปรอบๆ เวทีนี้ดู ... เราจะเห็นผู้นำคนต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนของทัศนะความคิดหลากหลายมากมาย ... ทุกคนต่างมาอยู่ที่นี่ ทุกคนต่างก็มารวมตัวกัน” บัน บอก
ทั้งนี้ ตัวแทนของสหรัฐฯ นอกจากโอบามาและ มิเชล ผู้ภริยาแล้ว อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช และ ลอรา ผู้ภริยา รวมทั้ง ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งเก็งกันว่าจะเข้าชิงชัยเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไป ก็ได้เข้าร่วมพิธีวันนี้ด้วย โดยทั้งหมดนั่งมาใน “แอร์ฟอร์ซวัน” เครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดอเมริกัน
อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯอีก 2 คน คือ บิล คลินตัน และ จิมมี คาร์เตอร์ ก็เดินทางมาเข้าร่วมเช่นกัน เพียงแต่เลือกเดินทางมาด้วยตนเอง
ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส ก็มาร่วมพิธีพร้อมกับอดีตประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีส์ คู่แข่งทางการเมืองของเขา
นอกเหนือจากโอบามา และบันแล้ว ผู้ที่ขึ้นกล่าวไว้อาลัยแด่แมนเดลายังรวมถึง รองประธานาธิบดีหลี่ หยวนเฉาของจีน, ประธานาธิบดีราอูล คาสโตรแห่งคิวบา รวมทั้งผู้นำบราซิล นามิเบีย อินเดีย และหลานของแมนเดลา
ก่อนที่โอบามาจะขึ้นพูดนั้น เขาได้เดินผ่านและจับมือกับประธานาธิบดีคาสโตร ของคิวบา ถึงแม้ทั้งสองประเทศเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาหลายสิบปีในช่วงสงครามเย็น
ทางด้าน กราซา มาเชล ภรรยาม่ายของแมนเดลา ตลอดจนา วินนี มาดิกิเซลา-แมนเดลา อดีตภรรยาของเขา ก็เดินทางมาร่วมพิธี เช่นเดียวกับชาร์ลิซ เธรอน นักแสดงสาวชาวแอฟริกาใต้, ซูเปอร์โมเดล นาโอมิ แคมป์เบล และโบโน นักร้องชื่อดัง
สำหรับประชาชนชาวแอฟริกาใต้นั้น แมตโลโกโนโล โมโทเก นักศึกษาปริญญาตรีสาขาการตลาดผู้หนึ่งที่มาถึงสนามกีฬาก่อนที่ประตูจะเปิดหลายชั่วโมง กล่าวว่า “ถ้าไม่มีท่าน ผมคงไม่มีวันนี้ เพราะท่านยอมติดคุกเพื่อให้เรามีเสรีภาพ”
ขณะที่ โรฮัน เลร์ด ประธานบริษัทประกันสุขภาพวัย 54 ปี เล่าว่า เขาเติบโตมาในฐานะคนแอฟริกันผิวขาวในยุคที่คนผิวขาวปกครองประเทศและเป็นอภิสิทธิ์ชน และการปรองดองของแมนเดลาช่วยปลดปล่อยความรู้สึกผิดของคนผิวขาว
“ผมไม่คิดว่าโลกจะมีผู้นำที่ยิ่งใหญ่แบบเนลสัน แมนเดลาอีกแล้ว”
ภายหลังพิธีนี้ ร่างของแมนเดลาจะถูกนำไปไว้ที่อาคารยูเนียน บิวดิ้ง ในกรุงพรีโตเรียเป็นเวลา 3 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ทำความเคารพครั้งสุดท้าย ก่อนทำพิธีฝังในวันอาทิตย์ (15) ที่สุสานของครอบครัวในหมู่บ้านคูนู จังหวัดอีสเทิร์นเคป
ก่อนเริ่มพิธี สาธุคุณ เดสมอนด์ ตูตู เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ กล่าวถึงแมนเดลาว่าเป็น “นักมายากล” ที่ร่ายมนตร์ให้แอฟริกาใต้ที่กำลังจะเข้าสู่สงครามกลางเมืองกลายเป็นประเทศที่แม้มีผู้คนหลากหลายสีผิวแต่เป็นปึกแผ่นสามัคคี
ขณะที่นายกรัฐมนตรีคาเมรอนของอังกฤษ กล่าวภายหลังเดินทางถึงสนามกีฬาเอฟเอ็นบีในโซเวโต ว่า “พวกเราได้รับแจ้งว่าเป็นการเหมาะสมที่จะผูกเน็กไทดำ”
“แต่เมื่อคุณมาถึง และคุณได้ยินเสียงอันยิ่งใหญ่นี้ และบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่นี้ มันก็เป็นที่ชัดเจนว่าประชาชนในแอฟริกาใต้นี่ ต้องการที่จะบอกว่า ใช่แล้ว กล่าวคำอำลาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ ใช่แล้ว จัดพิธีระลึกไว้อาลัยสิ่งที่เขาเคยทำมา แต่ก็ต้องเฉลิมฉลองชีวิตของเขาและเฉลิมฉลองมรดกที่เขาทิ้งเอาไว้ด้วย” คาเมรอนบอก