รอยเตอร์ - ผลสำรวจต่างๆ ชี้ว่าคะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ดิ่งฮวบ ภายหลังรัฐบาลผสมของเขาผลักดันกฎหมายว่าด้วยความลับ ที่มีบทลงโทษรุนแรงออกมาจากรัฐสภาได้สำเร็จ โดยที่นักวิจารณ์เกรงกันว่าจะกฎหมายฉบับนี้จะลิดรอนเสรีภาพของสื่อมวลชน และเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปกปิดการกระทำที่ไม่ชอบของตน
ฝ่ายนักวิเคราะห์ชี้ว่า เสียงสนับสนุนที่ลดน้อยลงเช่นนี้อาจผลักให้อาเบะ ซึ่งเข้ามาดำรงเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการให้คำมั่นว่าจะทำให้เศรษฐกิจที่กำลังซบเซาของญี่ปุ่นกลับฟื้นคืนขึ้นมาอีกครั้ง จะยังคงผ่อนผันนโยบายความมั่นคงให้อยู่ในลักษณะเดิมต่อไป จนกว่าจะมีการประกาศงบประมาณของปีหน้า และจนกว่าการขึ้นภาษีการขายตั้งแต่เดือนเมษายนปีหน้า จะเดินไปในทิศทางที่มั่นคงปลอดภัย
ผลสำรวจที่สถานีโทรทัศน์เจเอ็นเอ็นจัดทำขึ้น พบว่า คะแนนนิยมของรัฐบาลอาเบะลดลง 13.9 จุด ไปอยู่ที่ 54.6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นคะแนนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เขาเข้ามาดำรงตำแหน่ง ทว่าคะแนนนิยมของพรรคฝ่ายค้านหลัก “เดโมเครติกปาร์ตี” ก็เพิ่มสูงขึ้นมาเพียง 0.9 จุด ขึ้นมาอยู่ที่ 6.8 เปอร์เซ็นต์ และยังดูน้อยนิดเมื่อเทียบกับพรรครัฐบาล “ลิเบอรัลเดโมเครติกปาร์ตี” ของอาเบะ ที่มีผู้สนับสนุน 30.3 เปอร์เซ็นต์
สำหรับผลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโด แสดงให้เห็นว่า คะแนนความนิยมในคณะรัฐมนตรีของอาเบะ ลดลง 10.3 จุด ไปอยู่ที่ 47.6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่อาเบะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นสมัย 2 ที่โพลของเกียวโดพบว่าคะแนนลดลงไปอยู่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยวาระแรกของเขาในปี 2006-2007 นั้นสิ้นสุดลงด้วยการที่เขาลาออกภายหลัง 1 ปีแห่งความล้มเหลวอย่างหนักในการเลือกตั้ง ภาวะชะงักงันในรัฐสภา และสุขภาพที่อ่อนแอ
ราว 82 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามของเกียวโดโพล ที่จัดทำขึ้นวานนี้ (8) และวันนี้ (9) ระบุว่า ต้องการให้แก้ไข หรือล้มเลิกกฎหมายว่าด้วยความลับ ซึ่งบรรดานักวิจารณ์เปรียบว่าเหมือนกับระบอบปกครองเผด็จการอันแข็งกร้าว ในสมัยก่อน และระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
ทั้งนี้ อาเบะ กล่าวว่า กฎหมายว่าด้วยความลับฉบับนี้เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้พวกชาติพันธมิตร เป็นต้นว่า สหรัฐฯ เกิดความเชื่อมั่น และร่วมมือกันหาข่าวกรอง ขณะที่เขาจัดตั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติญี่ปุ่นในรูปแบบเดียวกับสหรัฐฯ เพื่อปรับปรุงนโยบายการต่างประเทศ และความมั่นคงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
วุฒิสภาญี่ปุ่น ได้ลงมติเห็นชอบกฎหมายว่าด้วยความลับของชาติฉบับนี้ เมื่อค่ำวันศุกร์ (9) ซึ่งจะเพิ่มบทลงโทษที่เข้มงวดสำหรับผู้เปิดโปง หรือเผยแพร่ความลับของทางการญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีประชาชนออกมาประท้วงหน้ารัฐสภาหลายพันคน และบรรดาสื่อมวลชน ตลอดจนนักวิชาการออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือดก็ตาม