รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 100 คน จากเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นทั่วอิรักในวันอาทิตย์ (8) โดยจุดที่เกิดการระเบิดส่วนใหญ่อยู่ภายในเขตที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากตำรวจอิรักระบุว่า เหตุโจมตีด้วยระเบิดรถยนต์ระลอกล่าสุดซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 94 คนนั้น ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในย่านที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ภายในกรุงแบกแดด รวมถึงที่เขตอาเมล, กาเดียร์, ซาเดอร์ ซิตี้ และฮุสไซนิยา
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 8 ราย หลังระเบิดที่ถูกซุกซ่อนไว้บริเวณริมถนนสายหนึ่งเกิดระเบิดขึ้นที่เขตรัดห์วานิยา ที่เป็นเขตที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาวมุสลิมนิกายซุนนี ด้วยเช่นกัน
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีหลายระลอกในวันอาทิตย์ (8) แม้จะมีการคาดการณ์จากหน่วยงานด้านความมั่นคงในอิรักว่า กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงของพวกมุสลิมนิกายซุนนี ที่ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ อาจอยู่เบื้องหลังเหตุนองเลือดระลอกล่าสุด เนื่องจากกลุ่มซุนนีหัวรุนแรงได้เคยออกมายอมรับถึงการก่อโจมตีในลักษณะเดียวกันหลายครั้งทั่วอิรักในปีนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ความรุนแรงในอิรักในปีนี้ได้พุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบอย่างน้อย 5 ปี โดยที่กรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรักกลายเป็นพื้นที่สุดอันตรายจากเหตุโจมตีรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นรายวัน ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในอิรักปีนี้ได้เพิ่มเป็นมากกว่า 8,000 รายแล้ว
