เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 62 คนในอิรัก หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์หลายระลอกในกรุงแบกแดดและอีกหลายเมืองทั่วประเทศตลอดทั้งวันอาทิตย์ (27) ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในอิรักนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมานั้นมีมากกว่า 5,000 รายแล้ว
เหตุโจมตีหลายระลอกที่เกิดขึ้นทั่วอิรักในวันอาทิตย์ (27) ส่งผลให้วันดังกล่าวเป็นวันที่เกิดการนองเลือดที่สุดในอิรักนับตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมาที่มีผู้เสียชีวิตในวันนั้นไปถึง 75 ราย
ข้อมูลของตำรวจอิรักระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 62 รายทั่วประเทศนั้น มีอยู่ราว 42 คนที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดรถยนต์หลายคันในหลายเขตของกรุงแบกแดดซึ่งพื้นที่เกิดเหตุส่วนใหญ่เป็นชุมชนของพวกมุสลิมนิกายชีอะห์ ทำให้หลายฝ่ายพุ่งเป้าไปที่กลุ่มติดอาวุธของพวกมุสลิมซุนนีหัวรุนแรงว่า อาจอยู่เบื้องหลังการโจมตีที่เกิดขึ้น
ขณะที่เมืองโมซุล ทางภาคเหนือ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดราว 360 กิโลเมตรก็ได้เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายขึ้นบนถนนสายหนึ่งใกล้กับธนาคารที่เหล่าทหารในกองทัพอิรักกำลังยืนเข้าคิวเพื่อรอเบิกเงินเดือนของตน โดยแรงระเบิดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 30 ราย นอกจากนั้นยังมีรายงานว่ามีตำรวจอิรัก 2 นายถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในเมืองโมซุลแห่งนี้เช่นกัน
รายงานข่าวยังระบุว่า เกิดเหตุระเบิดอีกจุดหนึ่งในวันอาทิตย์ (27)ที่ตลาดกลางแจ้งแห่งหนึ่งในเมืองตาร์มิยาห์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางเหนือราว 50 กิโลเมตร โดยจุดที่เกิดเหตุเป็นย่านที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวมุสลิมนิกายซุนนีและมีผู้เสียชีวิตไปอีก 4 ราย ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 11 ราย ซึ่งในจุดนี้คาดว่าอาจเป็นการโจมตีจากพวกมุสลิมชีอะห์หัวรุนแรงเพื่อแก้แค้นต่อพวกซุนนี