รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ 14 ครั้งซ้อนในย่านที่อยู่อาศัยของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 54 คน บาดเจ็บนับร้อย คาดเป็นฝีมือของกลุ่มมุสลิมซุนนีหัวรุนแรง
รายงานข่าวระบุว่า เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ หรือ “คาร์บอมบ์” ถึง 14 ครั้งในกรุงแบกแดด เมื่อวันจันทร์ (30) โดยจุดที่เกิดการระเบิดส่วนใหญ่เป็นย่านชุมชนของพวกมุสลิมชีอะห์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 54 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน
ข้อมูลของทางการอิรักระบุว่า จุดที่เกิดการนองเลือดมากที่สุด คือ เขตซาเดอร์ ซิตี ของกรุงแบกแดด ที่มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 7 คน รวมถึงทหารอิรัก 2 นาย หลังจากรถยนต์สีขาวคันหนึ่งเกิดระเบิดขึ้นใกล้กับจุดที่มีการรับสมัครงานซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุนั้น มีประชาชนมาเข้าแถวรอสมัครงานอยู่เป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นแหล่งข่าวด้านความมั่นคงในรัฐบาลอิรักเผยว่า เหตุคาร์บอมบ์ 14 ครั้งซ้อนทั่วกรุงแบกแดด เป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธของพวกมุสลิมซุนนีหัวรุนแรงหลายกลุ่ม ซึ่งในจำนวนนี้อาจมีกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ซอห์วา” ที่เคยให้ความช่วยเหลือต่อทหารสหรัฐฯในการกวาดล้างพวกนักรบอัลกออิดะห์ในอิรัก รวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ เหตุรุนแรงในอิรักซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างชาวมุสลิมชีอะห์ และซุนนี ปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่รัฐบาลของ “ซัดดัม ฮุสเซน” ถูกสหรัฐฯบุกเข้ามาโค่นอำนาจเมื่อปี 2003 ขณะที่ข้อมูลจากกลุ่มเคลื่อนไหวที่เฝ้าติดตามเหตุรุนแรงในอิรักอย่างกลุ่ม “อิรัก บอดี เคาท์” ก็ระบุว่า ลำพังในปี 2013 นี้ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในอิรักไปแล้วมากกว่า 6,000 คน