เอเจนซีส์ - เกาหลีใต้ประกาศในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ขยายเขตป้องกันภัยทางอากาศของตน จนเข้าไปทับซ้อนดินแดนบางส่วนในพื้นที่เช่นนี้ของจีน และญี่ปุ่น ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในเรื่องสิทธิอธิปไตยในบริเวณดังกล่าว ขณะที่วอชิงตันรับลูกทันที ยืนยันโซลหารือเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว นอกจากนั้น ก่อนปิดฉากเยือนเอเชียตะวันออกเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยังยืนยันความมุ่งมั่นของวอชิงตันในการทุ่มเทความสนใจทางยุทธศาสตร์มาที่เอเชีย รวมถึงเน้นย้ำว่า ต้องการให้ 2 พันธมิตรสำคัญ โตเกียว-โซล สามัคคีกัน
การประกาศเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของจีนเหนือทะเลจีนตะวันออก เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทะเลดังกล่าวเกือบทั้งหมด เรียกเสียงประท้วงจากทั้งอเมริกา และพันธมิตรใกล้ชิด คือ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ขณะที่ปักกิ่งยืนกรานว่า ADIZ ของตนสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ วอชิงตันและประเทศอื่นๆ จึงควรยอมรับ
ปักกิ่งยังออกกฎเกณฑ์ด้วยว่า เครื่องบินทุกลำที่บินผ่าน ADIZ นี้ ต้องแจ้งแผนการบินต่อจีน รวมทั้งคงการติดต่อทางวิทยุ และพิสูจน์ตัวตนทันที
ทว่า ทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ต่างส่งเครื่องบินทหารบินผ่านพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่แจ้งแดนมังกร นอกจากนี้ สายการบินของญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ยังดำเนินการแบบเดียวกันตามคำสั่งของรัฐบาล
มาวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) เกาหลีใต้ได้ประกาศขยาย ADIZ ของตนเองบ้าง โดยคราวนี้ครอบคลุมหมู่เกาะที่โสมขาวครอบครองอยู่ 2 แห่งทางใต้ และโขดหินปะการัง “ลีโอโด” ที่เป็นพื้นที่พิพาทแย่งชิงอยู่กับปักกิ่ง
กระทรวงกลาโหมโสมขาวแถลงว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดไม่ได้ละเมิดอธิปไตยของเพื่อนบ้าน
“เราชื่อว่าการดำเนินการนี้จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์กับจีน และญี่ปุ่น ขณะที่เราจะพยายามร่วมกันรักษาสันติภาพ และความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ” จาง ฮุก รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้กล่าว และว่า ได้อธิบายจุดยืนกับประเทศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งโดยรวมแล้วเข้าใจว่า การดำเนินการนี้สอดคล้องกับกฎระเบียบสากล และไม่ได้เป็นมาตรการที่สุดโต่งแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อป้องกันการเผชิญหน้าทางการทหารอีกด้วย
ทางด้าน เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา ได้ออกมาแถลงรับรองในวันเดียวกันว่า โซลได้หารือกับวอชิงตันแล้วเรื่องขยาย ADIZ และว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันชื่นชมความพยายามของเกาหลีใต้ในการดำเนินการนี้อย่างมีความรับผิดชอบด้วยการแจ้งให้เพื่อนบ้านรับรู้ล่วงหน้า
ทั้งนี้ ADIZ ของเกาหลีใต้กำหนดขึ้นครั้งแรกโดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ ระหว่างช่วงสงครามเกาหลีในปี 1951 และการขยายพื้นที่ครั้งนี้ซึ่งจะมีผลบังคับตั้งแต่วันอาทิตย์หน้า (15) จะไม่ครอบคลุมการดำเนินการของเที่ยวบินพลเรือน
อย่างไรก็ดี ADIZ ใหม่นี้จะทับซ้อนกับ ADIZ ของญี่ปุ่นด้วย ทว่า ล่าสุด ยังไม่มีปฏิกิริยาทั้งจากโตเกียว และปักกิ่ง ผิดกับการประกาศ ADIZ ของจีนที่ส่งผลให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที
โซลนั้นต่อต้านการประกาศ ADIZ ของจีน แต่ไม่ได้แสดงปฏิกิริยารุนแรงเท่าวอชิงตัน และโตเกียว โดยเฉพาะฝ่ายหลังที่กำลังพิพาทกับปักกิ่งในการแย่งชิงหมู่เกาะเล็กๆ ที่มีชื่อในภาษาญี่ปุ่นว่า “เซงกากุ” แต่จีนเรียกขานว่า “เตี้ยวอี๋ว์”
สถานการณ์ตึงเครียดล่าสุดนี้ กลายเป็นประเด็นที่ครอบงำการทัวร์เอเชียตะวันออกของ ไบเดน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่รองประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ผู้นี้ เตือนปักกิ่งว่า การประกาศ ADIZ ของจีนกระทบต่อสันติภาพ และเสถียรภาพในภูมิภาค
ระหว่างหารือเมื่อวันศุกร์ (6) กับประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายในการเยือนของเขาเที่ยวนี้ ไบเดน ยังแสดง “ความเข้าใจ” ในแนวทางต่างๆ ซึ่งรวมถึงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเขตป้องกันภัยทางอากาศของโซล
ไบเดน ยืนยันว่า ไม่ควรมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของอเมริกาในการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์เพื่อให้น้ำหนักแก่เอเชีย-แปซิฟิกมากขึ้น ในห้วงเวลาที่จีนก็กำลังแผ่ขยายอิทธิพลทางการทหาร
แต่แม้ยืนยันให้การสนับสนุนเกาหลีใต้ ไบเดน ยังอ้างอิงชัดเจนถึงความปรารถนาของวอชิงตันที่จะเห็น 2 พันธมิตรสำคัญ คือ โซล และโตเกียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ทว่า ในความเป็นจริง 2 ประเทศกำลังเย็นชาใส่กัน พัค นั้นปฏิเสธที่จะเสวนากับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ จนกว่าญี่ปุ่นจะขอโทษสำหรับความผิดมากมายในช่วงที่แดนอาทิตย์อุทัยยึดครองคาบสมุทรเกาหลี ในระหว่างปี 1910-1945
ไบเดน ยังพยายามย้ำถึงความสำคัญที่ภูมิภาคแถบนี้ และทั่วโลกต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อรับมือกับอันตรายจากโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ