เอเอฟพี - อิหร่านจะเริ่มระงับโครงการนิวเคลียร์ในช่วงต้นเดือนมกราคม ตามข้อตกลงควบคุมโปรแกรมนิวเคลียร์ 6 เดือน แลกเปลี่ยนกับการผ่อนคลายมาตรการคว่้ำบาตร ที่เห็นพ้องกับชาติมหาอำนาจระหว่างการเจรจาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จากการเปิดของทูตเตหะรานประจำหน่วยงานเฝ้าระวังปรมาณูของยูเอ็นในวันศุกร์(29)
"เราคาดหมายว่าจะเริ่มต้นได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคมหรือไม่ก็ต้นเดือนมกราคม ที่เราจะเริ่มดำเนินการตามมาตรการต่างๆที่เห็นพ้องจากทั้งสองฝ่าย" เรซา นาจาฟี ทูตอิหร่านประจำทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) บอกกับผู้สื่อข่าว
การเจรจาระหว่าง อิหร่านกับ 5 ชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งประชาชาติ ได้แก่ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ จีน และรัสเซีย บวกกับมหาอำนาจอีกประเทศหนึ่งคือ เยอรมนี ฝ่าทางตันได้สำเร็จเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยเตหะรานยอมระงับโครงการนิวเคลียร์ชั่วคราวเพื่อแลกเปลี่ยนกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร
ทั้งนี้การระงับโครงการ 6 เดือน นั่นหมายความว่าโอกาสที่ อิหร่าน จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น และเพิ่มความเชื่อมั่นมากขึ้น ระหว่างที่เตหะรานและมหาอำนาจ 5 บวก 1 หาทางบรรลุข้อตกลงในระยะยาว
อิหร่านให้คำมั่นจำกัดการแปรรูปยูเรเนียมแม้กระทั่งแร่ยูเรเนียมที่มีความบริสุทธิ์ในระดับต่ำ ยุติการก่อสร้างและติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อเสริมคุณภาพแร่ยูเรเนียม และระงับการก่อสร้างเครื่องปฏิกรณ์ใหม่ๆ ที่สามารถใช้ผลิตแร่พลูโตเนียม ที่อาจนำไปใช้เพื่อสร้างอาวุธนิวเคลียร์ได้เช่นกัน รวมทั้งอิหร่านยอมให้มีการตรวจสอบสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของตนด้วย
นอกจากนี้แล้วยังสัญญาว่าจะระงับความคืบหน้าใดๆที่โรงงานแปรรูปยูเรเนียม 2 แห่งที่ นาตานซ์และฟอร์โด เช่นเดียวกับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลหนักที่อารัค ซึ่่งหากว่ายังปฏฺิบัติการอยู่ก็อาจทำให้เตหะรานมีพลูโตเนียมเกรดสำหรับทำอาวุธได้
นับตั้งแต่เสร็จสิ้นการประชุมที่เจนีวา ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ โดยกุญแจสำคัญจะอยู่ที่การหารือทางเทคนิคระหว่างอิหร่าน ชาติมหาอำนาจและไอเออีเอ หน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบว่าเตหะรานปฏิบัติตามข้อตกลงหรือไม่
ทางไอเออีเอได้ติดตามการทำงานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านมานานแล้ว และได้ส่งบุคลากรเดินทางไปยังเตหะรานเพื่อตรวจสอบเครื่องจักรและวัดปริมาณคลังนิวเคลียร์ของอิหร่านอยู่ตลอด แต่ข้อตกลงในวันอาทิตย์ที่แล้ว ได้ขยายขอบเขตไปไกลกว่านั้น โดยคณะของไอเออีเอจะได้รับอนุญาตให้เข้าตรวจสอบแหล่งแปรรูปทุกๆวันและเข้าถึงที่ตั้งเครื่องหมุนเหวี่ยงแยกแร่ยูเรเนียม เหมืองยูเรเนียม รวมถึงเข้าตรวจโรงงานอารัคได้บ่อยขึ้น เพื่อพิสูจน์ถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงระงับแปรรูปยูเรเนียม
ขณะเดียวกันอิหร่านยังจะต้องให้ข้อมูลต่อแผนสร้างโรงงานนิวเคลียร์แห่งใหม่ ชี้แจงในทุกๆการก่อสร้างบริเวณที่ตั้งนิวเคลียร์และอัพเดทข้อมูลของเตาปฏิกรณ์ที่อารัคอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็หมายความว่าไอเออีเอต้องรับบทหนักและทางยูกิยะ อามาโนะ ผู้อำนวยการไอเออีเอ ออกมาวิงวอนขอเวลาและเงิ่มเพิ่มเติมสำหรับภาระหน้าที่คอยตรวจตราว่าอิหร่านจะปฏิบัติตามข้อตกลงหรือไม่
ทั้งหมดนี้แลกเปลี่ยนกับการผ่อนคลายมาตรการลงโทษต่อเตหะรานคิดเป็นมูลค่าราว 7,000 ล้านดอลลาร์ และคำสัญญาจากมหาอำนาจในการไม่ออกมาตรการลงโทษเพิ่มเติมในระยะเวลา 6 เดือน หากอิหร่านปฏิบัติตามข้อตกลง โดยระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว อิหร่านและมหาอำนาจทั้ง 6 จะเจรจา “วิธีแก้ปัญหาที่ครอบคลุม” เพื่อให้นานาชาติมั่นใจว่า กิจกรรมนิวเคลียร์ของเตหะรานมีเป้าหมายเพื่อสันติอย่างแท้จริง